เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ (24 มิ.ย.66 ) พ.ต.ท ปริญญา กุลรัตน์ สว.สอบสวน สภ. พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิตภายใน ภายในซอยรักวงค์วาน หมู่ 5 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสาน แพทย์โรงพยาบาลบางปะอิน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พระนครศรีอยุธยา มูลนิธิพุทไธสวรรย์ ไปให้การสนับสนุน
ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 24/2 หมู่ 5 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พบร่าง ผู้เสียชีวิต ทราบชื่อนายมนัส ธรรมโมรา อายุ 49 ปี สภาพนอนหงาย มีบาดแผลถูกยิง ด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม .จำนวน 3 นัดที่บริเวณ แขนซ้าย1 นัด สะโพกขวา 1 นัด ด้านหลัง1 นัด ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ พบปลอกกระสุนปืนขนาด9 มม.ตกอยู่ จำนวน 2 ปลอก หัวกระสุนปืน จำนวน 1 หัว บนถนนหน้าบ้านพบไม้หน้าสาม ความยาวประมาณ 1เมตร ตกอยู่
สอบถาม นางสาว สายนที หาญอนงค์ 51 ปี กล่าวว่า พี่สาวของผู้เสียชีวิต ผู้ก่อเหตุคือ นายสุชิน ธรรมโมรา อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของตนเอง ได้มอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ส่วนสาเหตุก่อนหน้านี้ นายมนัส ผู้เสียชีวิต มีบ้านพักอาศัยอยู่ใกล้กัน มีพฤติกรรมมีปากเสียงกันคนในครอบครัวเดียวกัน ด่าทอด้วยคำรุนแรง ใช้อาวุธมีด ท่อนไม้ไล่ทุบทำร้ายสิ่งของและคนในครอบครัว เป็นประจำ มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ช่วงเกิดเหตุตนเองอยู่ที่บ้านทราบจากแม่โทรไปบอกว่า นายมนัส ผู้เสียชีวิต ได้มีปากเสียงและทะเลาะวิวาทชกต่อยกับน้องเขย และยังด่าท่อคนในบ้านเหมือนทุกวันอีก นาย สุชิน ลูกชายจึงเกิดความบันดาลโทสะ ทนกับพฤติกรรมไม่ไหว จึงใช้อาวุธปืนยิง นาย มนัสจนเสียชีวิต และไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายบุญเชิด ท้าวสาบุตร อายุ 59 ปี น้องเขย ของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุ นายมานัส มาตะโกนด่าคนในบ้านเสียงดัง ตนจึงบอกให้หยุดด่า จนมีปากเสียงกัน นายมนัส ได้ชกที่บริเวณใบหน้า ปาก และ เบ้าตาของตนเองจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นได้วิ่งหลบหนีไป สักพักได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3-4 นัด จึงรีบออกมาดูพบว่านายสุชินฯ ได้ใช้อาวุธปืนยิงนายมนัสฯ เสียชีวิต
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงกับบ้านที่เกิดเหตุ พบว่าหลังมีปากเสียงกัน นายมนัส ผู้เสียชีวิต ได้วิ่งออกไปบริเวณปากซอยหายไปประมาณ 10 นาที จากนั้นได้เดินแบกเอาไม้หน้าสาม ย้อนกลับเข้ามา เดินตรงไปที่บ้าน กล้องวงจรปิดบันทึกภาพไปไม่ถึงบริเวณที่เกิดเหตุจากนั้นได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทกัน แล้วมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด
นายสุชิน ธรรมโมรา อายุ 36 ปี ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นหลานชายของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตมีพฤติกรรม มักจะชอบหาเรื่องทะเลาวิวาทมีปากเสียงกับคนในครอบครัวเป็นประจำ แม่ของผู้เสียชีวิตเองก็ยังถูกด่า พฤติกรรมแบบนี้คนในครอบครัวรวมถึงตนเองเจอกันเป็นประจำมากกว่า 10 ปี
ก่อนเกิดเหตุวันนี้ ผู้เสียชีวิตมาตะโกนด่าทอ หน้าบ้าน มีปากเสียงทำร้ายร่างกายน้าเขย ตนเองจึงวิ่งออกไปห้าม เขาหนีไปแล้วย้อนกลับมาตะโกนด่าที่หน้าบ้านอีก จึงได้เดินออกมาเห็นผู้เสียชีวิตถือมีดทำท่าจะเข้ามาทำร้ายตนเอง ตนจึงได้ไปหยิบอาวุธปืนที่มีอยู่ในบ้านออกมายิง 4 นัดจนเสียชีวิต รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความอดทนมันถึงที่สุดแล้ว เพราะทนกับพฤติกรรมของผู้เสียชีวิตที่ด่า และทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว แล้วยังมาหาเรื่องกับตนเองอีก ขอยอมรับผิดในสิ่งที่ตนเองทำ ตามกระบวนการของกฎหมาย
ทางด้าน นาง มณี ธรรมโมรา อายุ 76 ปี ซึ่งเป็นแม่ของผู้เสียชีวิตและเป็นยายของผู้ก่อเหตุ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากเกิดเหตุก็เดินทางมาพร้อมกับแม่ของผู้ก่อเหตุ และ ภรรยาของผู้เสียชีวิตซึ่งจะต้องมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผู้ตายก็เป็นลูกส่วนผู้ก่อเหตุก็เป็นหลาน ผู้ตายเป็นคนชอบอาละวาดและด่าทอคนในครอบครัว และจะไล่พี่ไม่ให้พี่น้องอยู่ในพื้นที่ เหมือนอยากจะได้ที่เพียงคนเดียวถ้าพ่อแม่เสียชีวิตไป
ส่วนวันนี้ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นก็อาจจะต้องมี คนที่อยู่ในบ้านได้รับอันตรายอย่างแน่นอน ตนเอง ในฐานะเป็นแม่ก็อาจจะต้องถูกลูกชายคนนี้ทำร้ายด้วยซ้ำ ถือว่า หมดเวรหมดกรรมกันไป ชาติหน้าก็อย่าขอเกินมาเป็นแม่ลูกกันอีก ส่วนเรื่องคดีความ ทางครอบครัวจะไม่มีการประกันตัวผู้ก่อเหตุ ให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมายเพราะถือว่าเป็นลูกผู้ชายแล้ว ก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ตนเองทำส่วนร่างของผู้เสียชีวิตจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัด คลองพุทรา จ.พระนครศรีอยุธยา
