จากกรณี เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ (31 พ.ค.66 ) เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในชุมชนด้านหลังวัดบางกะจะ ในพื้นที่ ม.4 ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รถดับเพลิง พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก อบต.สำเภาล่ม เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ใกล้เคียง รถดับเพลิงของสมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา ไปเร่งช่วยเหลือควบคุมเพลิง ที่เกิดเหตุพบว่ามีฝนตกลงมาอย่างหนักทางเข้าชุมชนเป็นที่แคบรถดับเพลิงต้องใช้ความระมัดระวัง ในการเข้าไปควบคุมเพลิงที่กำลังลุกไหม้บ้านเรือนประชาชนที่ปลูกติดกันซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบ้านไม้ทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิง และขนย้ายถังแก๊สจำนวนหลายใบออกจากกองเพลิง ใช้เวลาประมาณ 50 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ พบว่ามีบ้านเรือน ถูกเพลิงไหม้เสียหายจำนวน 4 หลัง มีรถจักรยานยนต์ถูกเพลิงไหม้เสียหายจำนวนหลายคัน ภายในกองเพลิงยังพบแมวเสียชีวิต บางตัวหนีออกมาได้
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ (1 มิ.ย. 66 )นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายเดชาธร เชาว์เลขา อำเภอพระนครศรีอยุธยา คณะสงฆ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และจิตอาสา ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ 4 ครอบครัว ที่ถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง ภายในชุมชนวัดบางกะจะ
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสอบความเสียหายในเบื้องต้น เพื่อประกอบการพิจารณาและหาแนวทางช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย โดยการช่วยเหลือในครั้งนี้ ได้ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นตามแนวทางการขับเคลื่อนบทบาทการเกื้อหนุนระหว่างวัดและชุมชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน ซึ่งได้รับความเมตตาจากคณะสงฆ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำโดยพระเทพวัชรจริยาจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดกษัตราธิราช พระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดศาลาปูนวรวิหาร และ คณะทำงาน ลงพื้นที่ให้กำลังใจและมอบเครื่องอุปโภคบริโภคและเงินช่วยเหลือเพื่อการดำรงชีพเบื้องต้น ร่วมกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในครั้งนี้ด้วย
พระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดศาลาปูนวรวิหาร กล่าวว่า ทราบข่าวจากเจ้าอาวาสวัดบางกะจะ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ติดกับชุมชน ตามที่มหาเถระสมาคมและกระทรวงมหาดไทย ได้ลงบันทึกข้อตกลงช่วยเหลือจุนเจือด้วยชีวิตจิตใจอย่างยั่งยืนและถาวร เมื่อพี่น้องประชาชนได้เกิดอัคคีภัยได้รับความเดือดร้อน บ้านเรือนเสียหายหลายหลังคาเรือน โดยแต่ละครอบครัวมีผู้อยู่อาศัยในบ้านที่ถูกไฟไหม้หลายคน พอทราบข่าวเรื่องราวที่เกิดขึ้น พระธรรมรัตนมงคล เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร ได้ทำงานสนองงานในด้านสาธารณสงเคราะห์ ของจังหวัดตามพระมหาเถระสมาคม จึงได้มอบหมายให้ พระเทพวัชรจริยาจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะนำสิ่งของอุปโภคบริโภคและจตุปัจจัย บางส่วนมามอบให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้ความเดือดร้อน พร้อมเป็นกำลังใจให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้
