เหมืองแร่ทองคำอัคราพิจิตรที่หยุดกิจการไปเกือบ 6 ปี วันนี้ประกาศรับสมัครพนักงานระดับปฏิบัติการกว่า 160 ตำแหน่ง เปิดโอกาสให้คนในพื้นที่ขอรับใบสมัคร ปรากฏว่าแห่กันมาเป็นพันคนหวังมีงานทำมีรายได้อยู่ใกล้บ้านในขณะที่เหมืองทองอัคราวางคุณสมบัติ 4 ข้อหลักในการพิจารณาเป็นพนักงาน คาดงานซ่อมบำรุงโรงงานเสร็จก่อนสิ้นปี จากนั้นขอรับการตรวจและพร้อมเดินเครื่องปลายปี 65 หรือต้นปี 66 เชื่อมั่นเศรษฐกิจชุมชนที่เงียบเหงาจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
วันที่ (10 พ.ย.65 ) นายวรงค์ สราญฤทธิชัย ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายบริหารองค์กร บมจ.อัครา รีซอร์สเซส ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงความคืบหน้าของการดำเนินกิจการว่าขณะนี้ภายในโรงงานเริ่มดำเนินการซ่อมแซมโรงงานครั้งใหญ่ที่เรียกว่า MAJOR OVERHAUL เครื่องจักร รวมถึงอาคารสถานที่สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในโรงงาน ซึ่งดำเนินการมาแล้วเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งการซ่อมแซมเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมการเปิดดำเนินกิจการฝ่ายบุคคลจึงได้ประกาศรับสมัครพนักงงานใน 11 แผนก 166 อัตรา โดยเชิญชวนผู้ที่สนใจมาขอรับใบสมัครได้ด้วยตนเองที่สำนักงานอัคราเพื่อชุมชน ในช่วงระหว่างวันที่ 7-16 พ.ย. 65 ( เว้นวันเสาร์-อาทิตย์) หรือ จะสมัครผ่านเว็ปไซต์ ออนไลน์ หรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่บริษัทอัคราได้ประกาศอย่างเปิดเผย ซึ่งก็ปรากฏว่าได้รับความสนใจ มีผู้แห่กันมาขอรับใบสมัครในช่วง 3 วันที่ผ่านมา มากกว่า 1 พันราย โดยมาขอใบสมัครแล้วนำเอกสารไปกรอกข้อความที่บ้านและให้นำมายื่นในวันที่ 14-16 พ.ย. 65 โดย คุณสมบัติหลัก ๆ ของผู้ที่สมัครมี 4 ข้อด้วยกันคือ 1. เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ 2. มีทัศนคติที่ดีต่อการทำเหมืองแร่ 3. ถ้าเป็นคนในพื้นที่จะได้รับพิจารณาเป็นพิเศษ 4. ต้องเป็นผู้ที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
นายวรงค์ สราญฤทธิชัย ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายบริหารองค์กร บมจ.อัครา รีซอร์สเซส ตอบคำถามถึงงบประมาณที่ใช้ในการ MAJOR OVERHAUL เครื่องจักร รวมถึงอาคารสถานที่สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในโรงงาน ว่า ใช้ทุนดำเนินการมากถึง 500 ล้านบาท สาเหตุเนื่องจากโรงงานหยุดกิจการมาเกือบ 6 ปีแล้ว ดังนั้นในการซ่อมแซมเครื่องจักรต้องทำใหม่เกือบ 100% รวมถึงต้องซ่อมแซมทั้งหมดทั้งโรงงานและอาคารสถานที่ ส่วนกำหนดการเดินเครื่องอย่างเป็นทางการนั้นยังไม่สามารถกำหนดวัน-เวลา ได้ในขณะนี้ ต้องขอให้การซ่อมแซมดำเนินการให้เสร็จตามแผนงานก่อน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 65 จากนั้นก็ต้องแจ้งให้กับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ เพื่อขออนุญาตดำเนินการตามระเบียบราชการ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์เมื่อถึงช่วงนั้น ฝ่ายทรัพยากรบุคคลก็จะแจ้งให้พนักงานที่สมัครและคัดเลือกไว้ ได้เตรียมตัวเตรียมความพร้อมในการเข้าทำงานต่อไป ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นก็จะระบุวัน Kick Off ของเหมืองทองอัคราให้สาธารณะชนรับรู้ รับทราบ ต่อไป
นายวรงค์ ผู้จัดการฯ บ. อัครา กล่าวอีกด้วยว่า ถ้าเหมืองทองอัคราเปิดดำเนินกิจการก็ต้องมีคนงานนับร้อยคน ซึ่งก็จะส่งผลให้มีเงินเดือน ให้มีรายรับ และเงินเหล่านี้ก็จะมาจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ในชุมชน ซึ่งคาดว่าในช่วงแรกเม็ดเงินจะสะพัดไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท/เดือน และ เม็ดเงินจะสะพัดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามตำแหน่งพนักงานที่ต้องรับเพิ่มขึ้นในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในช่วง 3-4 เดือน ที่ผ่านมา ในพื้นที่ ต.เขาเจ็ดลูก จ.พิจิตร และ ต.ท้ายดง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ติดกับเหมืองทองอัครา บรรยากาศร้านค้าในหมู่บ้านเริ่มกลับมาคึกคัก หอพักบ้านเช่า ก็เริ่มปรับปรุงพร้อมเปิดให้เช่ารวมถึงช่วงนี้ก็มีช่างฝ่ายซ่อมบำรุงโรงงานนับร้อยคนเข้ามาทำงานเข้ามาอยู่ในพื้นที่ ทำให้ในหมู่บ้านทั้ง 2 ตำบล ที่เคยเงียบเหงาเริ่มกลับมาพลิกฟื้นคืนชีพทางเศรษฐกิจอีกครั้งดังกล่าวอีกด้วย
สิทธิพจน์ เกบุ้ย จ.พิจิตร