เร่งซ่อมถนนคันคลองชลประทานหลังถูกน้ำกัดเซาะถนนขาด 2 วัน 2 คืน เสร็จแล้ว ขณะผู้ว่าอยุธยา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ ขอบคุณทุกภาคส่วนช่วยกันแล้วเสร็จ พร้อมเดินหน้าช่วยเหลือพื้นที่ได้รับผลกระทบรวมถึงที่ถูกน้ำท่วม
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ (19 ต.ค. 65 ) ที่บริเวณถนนชลประทาน ใกล้เคียงประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ด หมู่ที่ 7 ตำบลรางจระเข้ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่เกิดเหตุพังทลายและทรุดตัวลง เมื่อคืนวันที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา ผ่านมา 2 วัน 2 คืน เจ้าหน้าที่จากกรมชลประทาน เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระดมกำลังเดินหน้าในการอุดบริเวณแนวถนนคันคลองชลประทานถนนถูกน้ำกัดเซาะจนทรุดตัวพังทลาย ขนาดความกว้างประมาณ 8 เมตร เพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วมไหล่เข้าพื้นท้ายน้ำ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอบางซ้าย อำเภอลาดบัวหลวง โดยกรมชลประทานเร่งนำเครื่องจักร คนงาน บรรจุหินลงในตาข่ายกล่องเกเบี้ยนจำนวนกว่า 500 ใบ น้ำหนักใบละ 1 คิว จากนั้นลงเสาเข็มชีทไพล์ นำกล่องเกเบี้ยนไปวางเรียง เพื่อปิดกั้นทางน้ำไหลจุดที่ถนนขาดเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมากขึ้น ล่าสุดสามารถกลับมาเข้าสู่สภาวะปกติได้แล้วแต่จะมีน้ำบางส่วนไหลซึมบ้างบางส่วน
ขณะเดียวกัน นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรมชลประทาน นายอำเภอเสนา สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังเจ้าหน้าที่ หลังสามารถ ซ่อมแซมถนนคันคลองชลประทาน ที่ทรุดตัวได้แล้วเสร็จ
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สถานการณ์ในจุดนี้ ตอนนี้ได้แก้ไขซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องขอบคุณทางกรมชลประทาน ที่ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่จากส่วนกลาง และในพื้นที่ เข้ามาดำเนินการ ในช่วงประมาณ 3 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทุกคนเหน็ดเหนื่อย วันนี้สำเร็จแล้ว ซึ่งเหลือเพียงการนำหินคลุกลง รถก็จะสามารถเดินทางเข้าออกได้ สัญจรไปมาได้
ส่วนในเรื่องการช่วยเหลือท้ายน้ำเช่นเกษตรกร มีแนวทางการช่วยเหลือตามแนวทางของกระทรวงเกษตรกรอยู่แล้ว ตามหลักเกณฑ์ ด้านสถานการณ์น้ำในตอนนี้ในแม่น้ำสายต่างๆเริ่มลดลง แนวโน้มจะลดลง ในบางพื้นที่คาดว่าประมาณ 2 สัปดาห์น่าจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ แต่อย่างไรก็ตามจะมีพื้นที่นอกคันกั้นน้ำยังได้รับผลกระทบอยู่ ได้มอบหมายให้ทางอำเภอ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าดูแลอย่างใกล้ชิดในด้านการช่วยเหลือเพื่อให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
ด้าน นาย จินดา อายุ 63 ปี ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลรางจระเข้ ที่อยู่หลังถนนคันคลองชลประทานที่ขาดเสียหาย สุดดีใจ ที่มีหน่วยงานต่างๆเร่งเข้ามาแก้ไขและช่วยเหลือ เนื่องจากถนนคันคลองชลประทาน เส้นนี้เป็นทางเข้าออกของชาวบ้านหลายสิบหลังคาเรือน เพราะมีทางออกอีกทางแต่ก็ต้องลุยน้ำรถไม่สามารถเข้าออกได้ พอถนนเส้นนี้ซ่อมแล้วเสร็จต่างก็ดีใจ สามารถเข้าออกไปทำงาน ประกอบอาชีพได้สะดวก แม้บ้านจะถูกน้ำท่วมแต่ทางเข้าออกได้ก็ดีใจแล้ว
สุรัตน์ ชัยกุลเทวินทร จ.พระนครศรีอยุธยา