วันที่ ( 23 พ.ค.65 ) เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลเมืองสระบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุเพลิงไหม้ที่ย่านจำหน่ายของที่ระลึกริมถนนพหลโยธิน ฝั่งขาเข้า กทม. จึงประสานรถดับเพลิง/รถน้ำ /รถกระเช้าเทศบาลเมืองสระบุรี ร่วม 10 คัน รุดไปยังที่เกิดเหตุ พบกลุ่มควันออกมาจากบริเวณชั้นล่าง และชั้นสองของร้านจำหน่ายกะหรี่ปั๊บ “คุณจุ๋ม” เป็นจำนวนมาก บ้านเลขที่ 204 -206 อยู่ใต้อาคารสงวนไทย ซึ่งเป็นอาคาร 3 ชั้น ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี อดีตเคยเป็นโรงแรมชื่อดัง “แสนสุข” เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการฉีดน้ำดับเพลิงโดยใช้เวลาไม่นานนักก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ พร้อมให้การช่วยเหลือ นายไพบูลย์ ขุนาลักษณ์ อายุ 72 ปี เจ้าของร้านที่หนีออกมาทางหน้าต่างชั้นสอง มานั่งรอเจ้าหน้าที่อยู่ได้อย่างปลอดภัย ไฟได้ไหม้วอดไปทั้ง 3 ห้อง ชั้นล่างและชั้นสอง
เบื้องต้น สันนิษฐานไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง ส่วนค่าเสียหายอยู่ระหว่างตรวจสอบ
จากการสอบถาม นาย พงษ์พิพัฒน์ พลเรือง อายุ 43 ปี (ผู้เห็นเหตุการณ์ )เล่าว่า ตนเองพาหมาออกมาเดินเล่น เห็นมีกลุ่มควัน ตอนแรกคิดว่าเขาย่างอะไร ตนจึงได้เดินไปทางตลาด พอเดินกลับมามีควันเยอะกว่าเดิม และมีกลิ่นเหม็นคล้ายถุงพลาสติก และตนก็ไม่เคยเห็นใครก่อไฟแถวนี้ จึงได้เดินข้ามไปอีกฝั่ง และจอดรถรอ แต่มันก็ไหม้ไม่หยุดสักทีและควันก็เยอะขึ้นๆ ตนคิดว่าไม่ใช่แล้ว แบบนี้ไฟไหม้หรือเปล่า ตนจึงได้ย้อนกลับมาดู คิดว่าไหม้ร้านน้องสาว แต่มันไหม้ร้านข้างๆ สักพักรถดับเพลิงก็มาพอดี
ด้าน นาย สุริยา ขุนาลักษณ์ อายุ 60 ปี (น้องชายเจ้าของร้าน) เล่าว่า ตนเองขับรถออกมาจากบ้านตอนตี4 ขับมาเรื่อยๆและแวะเซเว่น เห็นมีรถดับเพลิงออกมาเยอะ จึงได้ถามเขาว่า ไฟไหม้ที่ไหน เขาบอกว่า ร้านคุณจุ๋ม ตนก็ร้อง อ้าว และจึงรีบมา นำรถไปจอด วิ่งขึ้นไปหาพี่ชาย แต่เขาไม่ให้ขึ้น ตนเองมีกุญแจ ส่วนพี่ชายปลอดภัย ตอนนี้ไปอยู่บ้านเมียแล้ว ส่วนสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าช็อตลัดวงจรที่ชั้นล่าง ตอนมาตนไม่ได้มองอะไรเลย มาถึงก็วิ่งเอากุญแจมาไข และเจ้าหน้าที่ก็ดันตนออกมา บอกว่า ไม่ให้เข้า แต่ไม่เห็นแสงไฟ มีแค่กลุ่มควัน
สำหรับจุด บริเวณที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ปัจจุบันเป็นย่าน จำหน่ายของที่ระลึกชื่อดังของ จ.สระบุรี ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยว และคนทั่วไป ที่ผ่านไป-มา แวะจอดรถซื้อเป็นของฝากกันอย่างคึกคักเป็นประจำ เดชะบุญ ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเช้ามืด มีคนผ่านมาพบเห็น และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ รถดับเพลิง (โรงพัก และเทศบาล) ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ราว 200 เมตร จึงสามารถมาระงับเหตุได้ทันท่วงที
เกียรติยง อัศวราศี ผู้สื่อข่าว จ.สระบุรี
