หลังจากที่คันกั้นน้ำชั่วคราวบริเวณ ม.5 ต.พระงาม อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ได้พังลง ส่งผลให้มวลน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างรวดเร็ว จนบางส่วนไม่สามารถเก็บของขึ้นที่สูงได้ทัน และบางบ้านต้องดำน้ำหาของ อย่างเช่น อุปกรณ์เครื่องมือทำมาหากิน
วันที่ (3 ต.ค. 65 ) หลังจากที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ได้ปล่อยน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มมากขึ้นจาก 2,586 ลบ.ม./วินาที เป็น 2,643 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา สูงขึ้น 11 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 16.23 เมตร (รทก.) และได้ปรับเพิ่มการผันน้ำเข้าระบบชลประทานด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ตามแผนบริหารจัดการน้ำ ที่กรมชลประทาน จะใช้ระบบชลประทานด้านเหนือเขื่อน ในการเร่งระบายน้ำเหนือ ส่งผลให้พื้นที่ หมู่ 5 ต.พระงาม อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี น้ำท่วมทะลักไหลข้ามฝั่งถนน และท่วมพื้นที่ที่พี่น้องประชาชนพักอาศัยอยู่ชั่วคราว
และยังส่งผลกระทบไปยังบ้านพี่น้องประชาชนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง เพราะน้ำได้ไหลลงพื้นที่การเกษตร โชคดีที่พี่น้องเกษตรกรได้ทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จแล้ว สำหรับพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นช่วงรอยต่อระหว่างการก่อสร้างเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาและได้ทำคันดินกั้นน้ำชั่วคราวไว้ เพราะอยู่ในช่วงกำลังก่อสร้างเขื่อน ซึ่งมวลน้ำจากเจ้าพระยามีกำลังไหลเข้าพื้นที่แรงมาก จนต้นไม้บางส่วนโค่นล้ม และเข้าท่วมบ้านเรือน ม.5 ต.พระงาม อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้พี่น้องประชาชนกว่า 450 กว่าครัวเรือน ต้องอพยพสิ่งของ ยานพาหนะหนีน้ำขึ้นสู่ชั้น 2 ของตัวบ้าน และบางส่วนก็สร้างที่พักชั่วคราวมาอาศัยบนถนนใหญ่ ด้านหมู่ที่ 4 ต.โรงช้าง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี พื้นที่ใกล้เคียงของ ต.พระงาม น้ำก็เพิ่มระดับเช่นกัน ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการกรอกกระสอบทราย กั้นไว้ไม่ให้น้ำข้ามเข้ามายังพื้นที่ แต่ก็ยังคงต้องเฝ้าระวัง ประเมินสถานการณ์กันวันต่อวัน เพราะสถานการณ์น้ำทางเหนือเขื่อนยังคงมีมากบวกกับฝนที่ตกในช่วงนี้อีกด้วย
จินตนา ปานมี ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สิงห์บุรี
