เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ (29 ส.ค.65 )พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเหตุอุทกภัยน้ำท่วมในเบื้องต้น จำนวน 120 ราย และเยี่ยมเยือนบ้านผู้ประสบภัย จำนวน 2 หลัง โดยมีนายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ ณ วัดโคกทอง ตำบลกุฎี อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังได้ตรวจเยี่ยมประชาชนที่บ้านถูกน้ำท่วมและตรวจดูการระบายน้ำที่ประตูระบายน้ำกุฎีอีกด้วย
สถานการณ์น้ำท่วมเมืองกรุงเก่า เริ่มส่งผลกระทบวงกว้างทั้งชาวบ้าน รวมถึงพระสงฆ์ สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขื่อนเจ้าพระยามีการระบายน้ำในอัตรา 1,579 ลบ.ม./วินาที เขื่อนพระรามหก ปล่อยในอัตรา 546 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะทำให้พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย คลองบางหลวง คลองบางบาล ระดับน้ำจะสูงขึ้น ทำให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ทั้งสิ้น 16 อำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วม และพื้นที่การเกษตร จำนวน 7 อำเภอ 75 ตำบล 329 หมู่บ้าน 4 ชุมชน 10,032 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 2,793 ไร่
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในวันนี้ผมและปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยอธิบดีป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนและมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทั้งหมด รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ที่ช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชน ตอนนี้มีอุทกภัย ซึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยาก็เป็นจังหวัดหนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบ ที่จุดนี้มีประชาชนได้รับผลกระทบ กว่าพันหลังคาเรือน ส่วนพื้นที่นาประมาณกว่า 400 ไร่ ที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว แต่ทางชลประทานได้เข้ามาช่วยเหลือติดตั้งเครื่องสูบน้ำออกแล้ว จะเก็บเกี่ยวประมาณอีก 10 วัน ถ้าเป็นไปตามนี้ผลเสียหายก็ไม่มากมายนัก จากนั้นคงจะเป็นทุ่งรับน้ำเหนืออย่างเช่นทุกปี ส่วนผู้ที่อยู่นอกแนวคันกั้นถนนที่เป็นพนังกั้นน้ำ จะ ได้รับผลกระทบเรื่องการอยู่อาศัยลำบาก เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครอง ปภ. อนามัย และหน่วยงานต่าง ๆ ได้เข้ามาช่วยดูแลกันอยู่ หวังว่าอีก 10 วันนี้ คงไม่มีน้ำเหนือลงมาเติม จะได้เก็บเกี่ยวที่กุฎิ เนี่ย 400 ไร่ และทุ่งป่าโมกทั้งหมด 4,000 ไร่ เราก็หวังว่าอย่างนั้น ความเสียหายทั้งหมด ท่านผู้ว่าฯ ประกาศเป็นเขตให้ความช่วยเหลือแล้ว ส่วนการช่วยเหลือทางราชการได้เตรียมไว้หมดแล้วทั้งที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน ขอให้ท่านผู้ว่าฯ ท่านปลัดฯ เร่งสำรวจ และประกาศให้เป็นเขตให้ความช่วยเหลือ โดยต้องลงไปดูรายละเอียดเพราะบางรายพิเศษอย่างกรณีคนแก่อยู่คนเดียว ขอให้จัดเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายให้การช่วยเหลือ โดยแบ่งเป็น ปัจจุบันจะอยู่อย่างไร อนาคตกลุ่มที่ทำมาหากิน ชาวนาชาวไร่จะเก็บเกี่ยวได้อย่างไร หลังจากนั้น จึงเป็นเรื่องเยียวยากันในระยะต่อไป
ณัฐพล กิจที่พึ่ง ผู้สื่อข่าวพระนครศรีอยุธยา