ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณพิมพ์พิชชา สุนทรศุภพิศาล และ คุณผกาเกศ งานสำเร็จหรือผกาเกศ หล้าคำ คณะกรรมการบริหารของบริษัทบายสมาร์ทพลัส ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีที่โดนกล่าวหาเกี่ยวกับ โครงการร้านสะดวกซื้อออนไลน์และมีการเก็บเงินต่างๆเป็นจำนวนมาก จึงได้เชิญสื่อมวลชนมาแถลงข่าว เพื่อชี้แจงเรื่องของการที่ตกเป็นข่าวและโดนกล่าวหา “เรื่องที่มีประชาชนส่วนหนึ่งไปแจ้งความเรื่องโครงการร้านสะดวกซื้อออนไลน์และมีการเก็บเงินต่างๆเป็นจำนวนมาก และ มีการไปร้องเรียนสื่อช่องหนึ่ง เราอยากจะมาชี้แจงว่าการเก็บเงินในครั้งนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆกับบริษัทบายสมาร์ทพลัส เนื่องจากบริษัทบายสมาร์ทพลัสของเราได้มีการจดทะเบียนได้ประมาณ2-3เดือนนะคะ การแจ้งความในครั้งนั้นเกิดขึ้นก่อนที่เราจะจดทะเบียนบริษัท บริษัทของเราเปิดขึ้นมาเพื่อทำการตลาดเรื่องของแอปพลิเคชั่นร้านสะดวกซื้อนะคะ จากนั้นรายละเอียดดิฉันอยากจะให้ประธานโครงการศูนย์ประสานงานทั่วประเทศของบริษัทบายสมาร์ทพลัสจำกัด ได้ชี้แจงรายละเอียดของข้อมูลนะคะ”
“ร้านสะดวกซื้อที่ดำเนินการโดยชื่อประธานก็ขอเอ่ยชื่อประธานตอนนั้นที่ดูแลช็อป24ชั่วโมงร้านสะดวกซื้อนะคะ ซึ่งเป็นโครงการที่ท่านตั้งขึ้นมาและบริหารจัดการเรื่องการตลาดโดยที่บริษัทบายสมาร์ทพลัสไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ช็อปที่ประธานสิทธวีย์ พลทา ให้สมาชิกเข้ามาจองไซส์S-M-L-XL เก็บเงิน30,000บ้าง20,000ก็มีค่ะ50,000-80,000ถึง120,000 เราก็อยากจะชี้แจงนะคะว่าบริษัทบายสมาร์ทพลัสไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้เลย เราจะมีเอกสารต่างๆ ซึ่งตัวดิฉันเองก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหาย ตอนที่นายสิทธวีย์ พลทาเปิดจองช็อป และ เก็บเงิน และ ดิฉันเองก็ได้จองไป 12 ช็อปหมดเงินไปก็ 2ล้านกว่าเกือบ 3 ล้านบาท เราก็จะมีเอกสารให้ดูนะคะว่าแต่ละช็อปเขาจะเรียกเก็บเงินไม่เหมือนกัน 75,000ก็มี ซึ่งตอนนี้ก็เหมือนกับโดนหลอกนะคะเพราะฉะนั้นเราเองก็เป็นผู้เสียหายในโครงการของนายสิทธวีย์ พลทา และ ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทบายสมาร์ทพลัสที่พึ่งจดทะเบียนได้ 2 เดือนกว่านะคะ
และ มีอีกหนึ่งเรื่องที่อยากจะชี้แจงท่านสมาชิกที่นำสินค้ามาส่งให้กับบริษัทบายสมาร์ทพลัสของเราในช่วง2เดือนที่ผ่านมา เราได้มีการชำระเงินไปแล้วนะคะ ก็ประมาณว่านายสิทธวีย์ พลทาได้จัดทำโครงการสมาร์ทพลัสโอท็อปซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ทางบริษัทบายสมาร์ทพลัสไม่ได้มีส่วนสนับสนุน แต่ในเมื่อนายสิทธวีย์ พลทา ทำโครงการนี้ขึ้นมาแล้วก็นำสินค้ามาเสนอให้ทางบริษัทบายสมาร์ทพลัส ซึ่งทางบริษัทบายสมาร์ทพลัสเราเองก็ได้มีการโอนเงินนะคะ นี่ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างแล้วก็ยังมีอีกหลายๆฉบับที่ทางบริษัทบายสมาร์ทพลัสได้โอนเงินจ่ายค่าสินค้าไปเรียบร้อยนะคะ ในแต่ละจำนวนคือค่าสินค้าทางเราได้โอนจ่ายนายสิทธวีย์ พลทาแต่นายสิทธวีย์ พลทาไม่ได้นำเงินจำนวนนี้ไปจ่ายให้แก่ผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการ แล้วก็มาโยนความผิดให้กับทางบริษัทบายสมาร์ทพลัสนะคะว่ารับสินค่ามาแล้วแต่ไม่จ่ายตังค์ เพราะฉะนั้นเราก็จะมีหลักฐานในการโอนเงินให้นายสิทธวีย์ พลทา
ทางบริษัทสมาร์ทพลัสก็จะไม่รับผิดชอบในเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้น เรื่องต่อไปที่อยากจะแถลงข่าวก็คือโลโก้นะคะอันนี้คือโลโก้ของเราบริษัทบายสมาร์ทพลัส ซึ่งโลโก้ของเราดูได้จากเพลย์สโตร์นะคะ สมาชิกหรือพี่น้องประชาชนสามารถโหลดแอปพลิเคชั่นของเราผ่านกูเกิ้ลเพลย์ และ เพลย์สโตร์ก็จะพบโลโก้ของเราซึ่งโลโก้ของเราใช้มามากกว่า2เดือนแล้วนะคะ รวมถึงพนักงานของเราที่เป็นคนออกแบบโลโก้เราก็จะมีฟิล์มเขียวของเราอยู่ แต่อีกฝ่ายได้มีการแอบอ้างใช้โลโก้ของเราแล้วเอาโลโก้ของเรา เนื่องจากร่วมมือกับพนักงานที่ดูแลเรื่องเอกสารของเรานะคะ ขโมยโลโก้ของทางเราไปจดสิทธิบัตรซึ่งตรงนี้เราอยากแจ้งเพื่อนสมาชิกนะคะว่า โลโก้ของเรามีอยู่ในแอปพลิเคชั่นเท่านั้น ไม่ใช่การซื้อขายผ่านทางใต้ดินหรือทางมือถือ แต่การซื้อ-ขายของเราจะผ่านทางแอปพลิเคชั่น และ บริษัทที่เกี่ยวข้องก็คือบายสมาร์ทพลัสนะคะตรงนี้อยากจะให้พี่น้องประชาชน และ สมาชิกของบายสมาร์ทพลัสได้เข้าใจตามนี้ค่ะ”
และตอนนี้ในสิ่งที่เป็นห่วงคืออีกฝ่ายได้มีการโฆษณาชวนเชื่ออยู่เหมือนเดิม เอาโลโก้ไป และ โฆษณาขายช็อปร้านสะดวกซื้อนะคะ ซึ่งมันเกิดปัญหาตอนที่เขาทำ ซึ่งเราเองก็เป็นผู้เสียหายจน ณ ปัจจุบันเขาก็ยังไม่เลิกทำค่ะละมีการโฆษณาชวนเชื่อให้คนไปเปิดร้านสะดวกซื้อตอนนี้ก็ทั่วประเทศ ทางเราก็ไม่อยากจะให้เกิดความเสียหายขึ้นอีกกับสมาชิกของเรา เราเลยอยากจะมาชี้แจงตรงนี้ว่าทางบริษัทบายสมาร์ทพลัสไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ของนายสิทธวีย์ พลทาค่ะ
อีกเรื่องหนึ่งที่เราจำเป็นต้องแจ้งสื่อมวลชนและสมาชิกของเรานะคะว่ามีการแอบอ้างที่อยู่ของเราไปจดทะเบียนซ้ำซ้อนค่ะโดยที่ไปหลอกเจ้าของตึก ทางเรามีหลักฐานการแจ้งความจากทางเจ้าของตึกนะคะเดี๋ยวทางเราจะมอบให้กับสื่อมวลชนนะคะเอกสารหลักฐานการแจ้งความตรงนี้ มีการโกหกเจ้าของตึกสำนักงานใหญ่ที่ขอนแก่นของเรานะคะโดยอ้างว่าเอกสารสัญญาเช่าหายเลยขอทำสัญญาเช่าใหม่ แล้วนำสัญญาเช่าฉบับนี้ไปจดทะเบียนบริษัทสมาร์ทพลัส2099บนที่อยู่เดียวกันกับบริษัทบายสมาร์ทพลัสของเรานะคะ เราถือว่าเป็นกลโกงนะคะ และถือว่าคุณขโมยที่อยู่ของเราไปจดทะเบียนบริษัทคุณทำแบบนี้เพื่ออะไร เพื่อโยนความผิดให้เรารึเปล่า ตรงนี้ทางเราจะมีการดำเนินคดีตามกฏหมายจนถึงที่สุดค่ะ โดยไม่มีการยอมความใดๆทั้งสิ้นก็อยากจะเรียนเพื่อนๆพี่น้องประชาชนรวมถึงสมาชิกบายสมาร์ทพลัสค่ะ
แล้วก็มีอีกหนึ่งเรื่องนะคะที่เขาทำอีกเช่นกันคือทำโครงการศูนย์ออนไลน์ ศูนย์ออนไลน์ท่านก็จะให้สมาชิกที่อยากจะเปิดศูนย์ออนไลน์กับโครงการของเ ให้วางเงินมัดจำเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท โดยจำนวนเงิน100,000 บาทโอนเข้าบัญชีของนายสิทธวีย์ พลทา แล้วบอกว่าจะโอนเงินส่วนนี้คืนภายใน 60 วัน จนตอนนี้โครงการนี้ก็ได้โดนยกเลิกไปแล้วนะคะ และ ไม่มีใครทำแล้ว แต่ทั้งนี้ทางผู้เสียหายหลายท่านที่เรียกร้องขอเงินที่ไปวางมัดจำคืนซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับเงินคืน เพราะฉะนั้นนายสิทธวีย์ พลทา ก็จะโยนมาบอกว่าเป็นหน้าที่รับผิดชอบของบายสมาร์ทพลัส ซึ่งไม่เป็นความจริง แล้วบริษัทบายสมาร์ทพลัสไม่ขอรับผิดชอบตรงนี้ด้วยค่ะ เนื่องจากเราไม่ได้เป็นผู้รับเงินนะคะ การโอนเงินก็คือโอนเงินเข้านายสิทธวีย์ พลทาและนายสิทธวีย์ พลทาไม่เคยโอนเงินให้ทางบริษัทบายสมาร์ทพลัสนะคะ
แต่ถ้านายสิทธวีย์ พลทามีหลักฐานการโอนเงินให้บริษัทบายสมาร์ทพลัสเราค่อยมาว่ากันค่ะ แต่ที่แจ้งคือนายสิทธวีย์ พลทาไม่เคยโอนเงินให้กับบริษัทบายสมาร์ทพลัสในส่วนของเงินค่าประกันศูนย์ออนไลน์ค่ะ วันนี้จึงเรียนพี่น้องประชาชนรวมถึงสมาชิกที่รักความถูกต้อง ที่รักความเป็นธรรม ที่เคยอยู่กับครอบครัวสมาร์ทพลัสนะคะ หลายๆท่านก็มีรายได้จากบายสมาร์ทพลัสจากแอปพลิเคชั่นของเราแม้ว่าเราจะหกล้มบ้างมีการโดนกลั่นแกล้งบ้าง แต่เราก็ยืนหยัดที่จะไปต่อ ที่สำคัญแอปพลิเคชั่นของเราเป็นแอปพลิเคชั่นระดับโลกเป็นแอปพลิเคชั่นของคนไทย ดิฉันอยากจะฝากพี่น้องคนไทยว่าแอปพลิเคชั่นของเราโหลดได้ที่เพลย์สโตร์และกูเกิ้ลเพลย์โดยกดคำว่า Smart Plus+ ท่านจะพบกับโลโก้ตัวเอสแล้วก็บวกและท่านกดเรื่องของการติดตั้งและยืนยันตัวตนท่านก็สามารถที่จะสร้างเงินจากแอปพลิเคชั่นของเราได้ด้วยการเป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์แอปพลิเคชั่นหรือฝากขายในแอปพลิเคชั่นของเราได้ และเรายังมีโปรแกรมต่างๆมากมายเช่นโปรแกรมการจัดประชุมที่สามารถจัดประชุมได้ทั่วโลกเราก็มีโปรแกรมของมีตติ้งรูม นี่คือหนึ่งฟังก์ชั่นของแอปพลิเคชั่นของเราและเรายังมีฟังก์ชั่นของการสร้างวิดีโอคอนเท้นต์เราก็สามารถอัปโหลดวิดีโอและได้รับของขวัญเงินรางวัลนะคะ และฟังก์ชั่นที่แปลงเหรียญเป็นเงินสดก็เป็นฟังก์ชั่นอีแบงค์กิ้งเรามีฟังก์ชั่นที่หลากหลายและแชทคุยกันได้นะคะ เรามีแอปพลิเคชั่นไทยที่ต้องการให้เติบโตไปทั่วโลก ตรงนี้เราอยากจะฝากพี่น้องคนไทยนะคะว่าอยากให้ทุกคนเห็นคุณค่าของความเป็นแอปพลิเคชั่นไทย อยากฝากนะคะว่าถ้าเราไม่สนับสนุนแอปพลิเคชั่นไทยเราสนับสนุนแต่แอปพลิเคชั่นต่างชาติเราจะไม่ได้อะไรเลย แต่วันนี้แอปพลิเคชั่นคนไทยเกิดขึ้นแล้ว อยากให้เติบโตไปทั่วโลกต้องใช้แอปพลิเคชั่นไทยค่ะ และเงินโฆษณาจะหลั่งไหลมาแอปพลิเคชั่นของคนไทย คนไทยก็จะได้มีส่วนได้และผลประโยชน์จากแอปพลิเคชั่นของคนไทยด้วยกันค่ะ วันนี้ขออนุญาตจบการแถลงข่าวเพียงเท่านี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
เกียรติยศ ศรีสกุล