จากรณีเมื่อปลายปี 2564 ทนายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ได้พาผู้เสียหายจำนวน 10 รายที่ถูกสำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ สั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ เนื่องจากหนังสือผ่านการอบรมใบขับขี่เป็นของปลอม หลังจากไปสมัครเรียนการขับขี่รถยนต์ ที่สถาบันสอนการขับรถยนต์แห่งหนึ่งในย่านจังหวัดสมุทรปราการ ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมาแต่สถานที่อบรมตามหลักสูตรการขับขี่รถยนต์และสัญญาณไฟจราจรต่าง ๆ ที่ทางสถาบันสอนขับรถแห่งนั้นเคยใช้ ได้ปิดเนื่องจากโควิด 19 กำลังระบาด และได้มีนางมัด ได้เข้ามาขันอาสา ว่ามีสถานแห่งหนึ่งซึ่งสามารถเปิดอบรมให้ได้ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายรายละ 1 พันบาท ผู้เสียหายทั้งหมดหลงเชื่อยอมจ่ายเงินให้ แต่หลังจากเวลาผ่านไป 3 วันนางมัด ได้จัดส่งเอกสารผ่านการอมรม ของคนที่มาสมัครเรียนขับรถมาให้ แต่หลังจากที่ผู้เสียหายไปทำใบขับขี่ที่ขนส่งสมุทรปราการ ซึ่งทุกคนก็สอบผ่านและได้ใบขับขี่กลับไป ผ่านไปประมาณ 5-6 เดือน ทางสำนักงานขนส่ง ได้มีหนังสือส่งไปที่บ้านของผู้ที่ไปสอบใบขับขี่ทั้งหมดขอเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ เนื่องจากหนังสือผ่านการอบรมเป็นเอกสารปลอม ซึ่งเจ้าของสถานที่ที่ไปอบรมเป็นคนออกให้ ซึ่งรายเซ็นและตราประทับเป็นของปลอม เจ้าของสถานบันสอนขับรถดังกล่าว จึงพาผู้เสียหายทั้งหมดเข้าขอความเป็นธรรมกับทนายเกรียงศักดิ์ และพากันเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางปู สมุทรปราการ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนางมัด ฐานความผิด ฉ้อโกง และปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม
ล่าสุดในวันนี้ที่ 6 มิถุนายน 2565 ทนายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ได้พาผู้เสียหายจำนวน 10 รายที่ถูกสำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ สั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ เนื่องจากหนังสือผ่านการอบรมใบขับขี่เป็นของปลอม เข้าพบ ร.ต.อ.อำนาจ ตะเคียนราช รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางปู สมุทรปราการ เพื่อให้ดำเนินคดีเพิ่มเติมกับนางมัด ซึ่งเป็นผู้ออกหนังสือผ่านการอบรมปลอม จึงทำให้ผู้เสียหายทั้งหมดถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และถูกสำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ ได้แจ้งความดำเนินคดีผู้เสียหายไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้ผู้เสียหายทั้งหมดได้รับความเดือดร้อน จึงเข้าร้องความเป็นธรรมกับทนายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี พาเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานและพยานเพื่อดำเนินคดีกับนางมัด ผู้ก่อเหตุและนำเอกสารการแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับสำนักงานขนส่งทางบกจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อให้สำนักงานสงขนทางบกสมุทรปราการ ช่วยทำการปลดล็อกการเพิกถอยใบอนุญาตขับขี่ ให้แก่ผู้เสียหายทั้งหมดโดยกลับไปเริ่มต้นกระบวนการในการอบรมและทำใบอนุญาตเริ่มอีกครั้ง
ก่อนที่จะพากันเข้าพบนาย พลวัฒน์ อุดมพิพัฒน์ เจ้าพนักงานขนส่งอาวุโส สำนักงานขนส่งทางบกจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อสอบถามความคืบหน้า ได้กล่าวว่า จากการที่ทาง สนก. ก็จะมีอยู่ 2 ประเด็น ประเด็นการเพิกถอน ซึ่งการเพิกถอนของขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ เราใช้อำนาจ พรบ.การปกครอง 2529 มาตร 49 ก็พูดถึงเรื่องกับการใช้ เอกการปลอมของทางราชการ ซึ่งในส่วนที่ทางตนได้ทำไป ใส่วนในการตีความตาม พรบ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตร 53 เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาต ซึ่งตรงประเด็นตรงนี้นำมาเป็นจุดทางออกให้พวกเราได้ ว่าการพิจารณาการเพิกถอน เราได้ใช้หลักกฎหมายตัวไหน ซึ่งตนนี้เราใช้หลักกฎหมายตาม พรบ.การปกครอง ก็เลยมีข้อพิจารณามาให้ในส่วนของการเพิกถอน เป็นการเพิกถอนที่ถูกต้องตาม พรบ.การปกครอง ตามระบบของกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ทางขนส่งจังหวัดได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ใช้เอกสารปลอมกับทางราชการ ซึ่งในเรื่องนี้อยู่ในระหว่างดำเนินคดีซึ่งในเรื่องนี้ตนก็ยังตามอยู่โดยตลอด ในส่วนการเพิกถอนออกจากในระบบ MPM ก็จะทำให้ผู้เสียหายทั้งหมดสามารถที่จะยื่นเรื่องขอทำใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ได้ใหม่อีกครั้งโดยมีกำหนดภายใน 3 ปี
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ ผู้สื่อข่าว จ.สมุทรปราการ