เมื่อช่วงบ่ายวันที่ (30 พ.ค.65 ) ผู้สื่อข่าวได้รับการติดต่อร้องเรียนจาก นางสาววราภรณ์ จันแปงเงิน อายุ 22 ว่า แก๊งทวงหนี้โหดมาทวงหนี้แม่แล้วแม่ยังไม่มีให้จนมีปากเสียงกับ พี่ชายจน ถูกแก๊งเงินกู้โหดยกพวกมาใช้มีดฟันเข้ากลางหลังจนต้องเย็บกว่า 20 เข็ม ทางบ้านต้องอยู่กันแบบหวาดระแวงถูกข่มขู่เอาชีวิต
นางสาววราภรณ์ จันแปงเงิน อายุ 22 น้องสาว เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ วันที่ 28 พ.ค. 2565 เวลาประมาณ 16.55 น. ขณะที่ นายภานุวัฒน์ จันแปงเงิน อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นพี่ชาย อุ้มลูกและยืนอยู่ หน้าบ้านเลขที่ 44/3 ม.2. ต.คลองสระบัว อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นบ้านที่พักอาศัย ได้มีรถยนต์ ยี่ห้อโตโยตา วีออส สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ได้ชับขี่มาแล้วก็จอดบริเวณหน้าบ้านดังกล่าว ก่อนที่ นาย แบงค์ (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) พร้อมพวกรวม5 คน ซึ่งเป็นคนเก็บเงินกู้ดอกแบบลอยรายวันได้ลงมาจากรถซึ่งถืออาวุธมีดได้เข้ามาใช้อาวุธมีดดังกล่าวฟันแทง นายภานุวัฒน์ พี่ชาย จนได้รับบาดเจ็บ ต่อหน้าลูกวัย 3 ขวบที่ตนอุ้มอยู่ ถูกลูกหลงไปด้วย นายภานุวัฒน์ จึงรีบวิ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือ ข้างบ้านที่อยู่ติดกันจนเจ้าของบ้านห้ามไม่ให้ผู้ก่อเหตุเข้ามาไม่อย่างนั้นจะแจ้งความบุกรุกทุกคนจึงขึ้นรถหนีไป จากนั้นทางญาติ จึงได้พาพี่ชาย ซึ่งได้รับบาดเจ็บ ไปโรงพยาบาล พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว น.ส.เตือนใจ โตมิเฉลิม ซึ่งเป็นแม่ของนายภาณุวัฒน์ และแม่ของตนเอง ได้ไปกู้เงินแก๊งค์ปล่อยเงินกู้นอกระบบ(ดอกลอย) จำนวน 5,000 บาท ตั้งแต่ช่วงน้ำท่วม จ.อยุธยา เมื่อประมาณ ตุลาคม ปี 2564 ที่ผ่านมา โดยแก๊งค์ดังกล่าวจะขับรถยนต์มาเก็บค่าดอกเบี้ยวันละ 100 บาททุกวัน ถ้าคิดเป็นดอกเบี้ยก็ตกร้อยละ 70
โดยก่อนเกิดเหตุ ประมาณ 2 อาทิตย์ นายแบ๊งค์ได้พาพรรคพวกมาเก็บเงิน น.ส.เตือนใจ( แม่) แต่ในวันนั้น แม่ไม่ได้ออกไปขายของจึงทำให้ไม่มีเงินจ่ายค่าดอกเบี้ยพร้อมขอผัดผ่อนไปอีกวันหนึ่ง แต่ ทางนายแบ๊งค์ไม่พอใจจึงได้ต่อว่าอย่างรุนแรงแม่อย่างเสียหาย ลูกสาวที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ได้ช่วยแม่บอกว่าวันนี้ไม่มีเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็จะหาจ่าย แต่ทางนายแบ๊งค์และพรรคพวกยังต่อว่าด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ นายภานุวัฒน์ พี่ชาย เมื่อได้ยินแม่โดนแก๊งค์เงินกู้รุมด่าจึงเข้าไปต่อว่าจนกลายเป็นมีปากเสียงกัน ก่อนที่ นายแบ๊งค์และพรรคพวกจะขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยตา วีออส สีดำ ออกไป ในคืนเดียวกันนั้นประมาณ 22.30 น.นายแบ็งค์ได้นำชายฉกรรจ์นับ 20 คนมาที่บ้าน ทางตนเอง จึงโทรแจ้งตำรวจ ได้มีสายตรวจของ สภ.พระนครศรีอยุธยา ขับรถเข้ามาดูกลุ่มชายฉกรรจ์จึงได้หนีไป ต่อจากนั้นวันถัดมา ชายฉกรรจ์ที่เป็นพวกของนายแบ๊งค์ก็ได้ขับรถยนต์เข้ามาวนดูบ้าน ของ ตนเองทุกวัน โดยรถยนต์ที่ขับมาแทบไม่ซ้ำยี่ห้อกัน ซึ่งไม่เหมือนจะเข้ามาเก็บเงินแต่คล้ายจะมาวนดูนายภาณุวัฒน์ พี่ชาย
จนวันเกิดเหตุช่วงเย็นของ วันเสาร์ที่ 28 พ.ค. 2565 ระหว่างที่นายภาณุวัฒน์ ยืนเล่นกับลูกอยู่หน้าบ้าน ได้มีรถยนต์โตโยตา วีออส สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับมาจอด จากนั้นมีชายฉกรรจ์ลงมา 4 คน ได้ลงจากรถกรูมารุมซ้อมนายภาณุวัฒน์ ก่อนที่นายแบงค์ได้เดินลงจากฝั่งคนขับเดินมาพร้อมมีดตรงเข้ามาฟันนายภาณุวัฒน์จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะขึ้นรถยนต์คันดังกล่าวขับหลบหนีไป
ทางด้าน นายภาณุวัฒน์ ได้กล่าวต่อว่า ตนเองอยากวอนให้หน่วยงานตำรวจช่วยเร่งจับผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฏหมาย เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ตนเองเป็นห่วงความปลอดภัยของตัวเองและคนในครอบครัว ว่ากลุ่มคนดังกล่าวอาจจะกลับเข้ามาทำร้ายตนเองหรือคนในครอบครัวในสักวันหนึ่ง ส่วนที่ตนเองต่อว่ากลุ่มแก็งเงินกู้ไปไหนก็เพราะว่ามายืนรุมด่าแม่ของตนเอง ตนเองก็รับไม่ได้กับการกระทำจึงเกิดมีปากเสียงกันจนกลุ่มดังกล่าวยกพวกมาทำร้ายตนทั้งที่ยังอุ้มลูกวัย 3 ขวบจนได้รับลูกหลงไปด้วยแก็งเงินกู้ไม่สนว่าจะมีเด็กอยู่เลยแถมยังถูกข่มขู่ว่าไม่กลัวตำรวจ พวกกูจะเอาตำรวจมาอุ้มตนเอง และคนในครอบครัว
นางเตือนใจ โตมิเฉลิม อายุ 51 ปี แม่เผยด้วยน้ำเสียงสั่นคลอว่า ตนยอมรับว่ากู้เงินจากแก๊งเงินกู้จริงแต่ก็ส่งดอกมาตลอดบางครั้งขายของไม่ได้ก็ผลัดผ่อนและไม่เคยคิดโกงแต่วันนั้นไม่ได้ขายของจริงแต่แก๊งเงินกู้ก็ไม่ยอม ด่าทอเสียหายจนลูกชายและลูกสาวเห็นเข้าจึงเกิดมีปากเสียงกันขึ้น และก็มาเกิดเหตุแก๊งเงินกู้รุมทำร้ายลูกชายฟันเข้าที่กลางหลังจนได้รับบาดเจ็บ ทุกวันนี้ตนเองลูกชายและลูกสาวไม่กล้าออกจากบ้านและไม่กล้าขายของกลัวว่ากลุ่มแก๊งเงินกู้โหดจะมาดักรุมทำร้าย และตอนนี้เป็นห่วงลูกชายอย่างมาก เพราะที่ทราบว่ากลุ่มแก๊งเงินกู้นี้เป็นผู้มีอิทธิพลและประกาศว่าตำรวจก็ไม่กลัวตนจึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่บ้านเมืองช่วยตามกลุ่มแก๊งเงินกู้กลุ่มนี้มาดำเนินคดีให้ได้
นางดา สงวน นามสกุล อายุ 42 ปี เพื่อนบ้าน วันเกิดเหตุตนเองได้นั่งอยู่ภายในบ้านแล้วได้ยินเสียงดังอยู่บริเวณหน้าบ้านวันนั้นได้เปิดประตูบ้านไว้และเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คนลงมาล้อมผู้บาดเจ็บและรุมทำร้ายใช้มีดฟันต่อหน้าลูกทั้งที่ยืนอุ้มอยู่จนผู้บาดเจ็บวิ่งเข้ามาในบ้านขอความช่วยเหลือกลุ่มชายฉกรรจ์จะวิ่งตามเข้ามาในบ้านตนเองจึงได้ตะโกนว่าห้ามเข้ามาไม่เช่นนั้นจะแจ้งบุกรุกทุกคนจึงรีบขึ้นรถแล้วแยกย้ายกันกลับไป
เบื้องต้น นายภานุวัฒน์ ผู้บาดเจ็บ เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ ต่อ ร.ต.อ.กิติศักดิ์ อุดมรักษ์ พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา หลังถูกแก๊งค์เงินกู้นอกระบบนำอาวุธมีดทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าวแล้ว
สุรัตน์ ชัยกุลเทวินทร ผู้สื่อข่าว จ.พระนครศรีอยุธยา