พังงา​-เกิดพายุกระหน่ำ คลื่นลมแรงบนเกาะยาว พัดหลังคาบ้านปลิว ทุ่นเรือขาด ทำเรือจมเสียหาย4ลำ

วันที่ ( 21 พ.ค.65 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทาง ว่าที่พันตรีอภิญญา ศักดินันท์ นายอำเภอเกาะยาว แจ้งทางจังหวัดพังงา ว่า เวลาประมาณ 14.30น ได้เกิดพายุฝน คลื่นลมแรงในพื้นที่อำเภอเกาะยาว เป็นเหตุให้ หลังคาบ้าน เรือนราษฎรได้รับความเสียหาย จำนวน 5 หลัง แยกเป็น หมู่ที่ 7 ต.พรุใน 3 หลัง และหมู่ที่ 7 ต.เกาะยาวน้อย 1 หลัง ต้นไม้ล้มทับบ้าน หมู่ที่ 2 ต.เกาะยาวน้อย 1 หลัง ผลของคลื่นลมแรงทำให้ ทุ่นซึ่งใช้เป็นแพสำหรับรับส่งผู้โดยสาร ของท่าเรือแหลมไทร หมู่ที่ 5 ต.เกาะยาวน้อย หลุดขาด ทั้งชุด และลาก เรือ ประมงและเรือ ที่ใช้สำหรับรับนักท่องเที่ยว ของราษฎร ที่จอดผูกไว้กับ กับแพ จมลงจำนวน 4 ลำ สำหรับตัวทุ่นหลุดลอยไปติดกับท่าเรือซึ่งอยู่ใกล้บริเวณใกล้เคียงประมาณ 100 เมตร

สำหรับการดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ชั้นต้น นายก อบต.เกาะยาวน้อย ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ฝ่ายป้องกันบรรเทาสาธารณภัย นำรถเครนเข้าช่วยดึงลากเรือที่จมน้ำ และ ยกเครื่องยนต์เรือที่จมน้ำขึ้น มาทำการซ่อมแซมบริเวณชายฝั่ง ประมาณการค่าเสียหายชั้นต้น ลำละประมาณ 10,000 บาท สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหา ว่าที่พันตรีอภิญญา ศักดินันท์ นายอำเภอเกาะยาวได้ พบปะกับกลุ่มผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวและเรือประมงที่ได้รับผลกระทบ ดังกล่าว ทราบว่า แพที่ใช้เป็นทุ่นเรือ ลอยน้ำดังกล่าวดำเนินการก่อสร้างโดย สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดพังงา เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว สำหรับสมอยึดทุ่นทำด้วยที่ผู้รับจ้างก่อสร้างทำไว้เป็น แท่งปูนกากบาทขนาดประมาณ 40 ซม. ไม่สามารถรองรับคลื่นลมได้ และ เมื่อดำเนินการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยยังไม่ได้ส่งมอบให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันการดูแลรักษาทางกลุ่ม ราษฎรที่ ประกอบกิจการ ประมงและท่องเที่ยวโดยร่วมกัน ดูแลรักษา กันเอง โดยนำ สมอเรือ จำนวน 10 ชุดไปช่วยผูกยึด กับ ทุ่นแพลอยลอยน้ำดังกล่าวแต่ก็ไม่สามารถ ต้านทานกับคลื่นลม ในช่วงฤดูฝนได้

ส่วนการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในชั้นต้น นายอำเภอได้มอบหมายให้ นายก อบต.เกาะยาวน้อย จัดหาเศษวัสดุ แท่งปูน ขนาดใหญ่ที่รื้อหรือทิ้งไว้ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของเกาะยาว เพื่อนำมา เป็นทุ่นสำหรับใช้ผูกแพดังกล่าวแทนสมอ ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาวจะได้เสนอของบประมาณ จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา เพื่อ ก่อสร้างท่าเรือเพิ่มเติมจากท่าเรือเดิมที่มีอยู่ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างถาวรต่อไป

สำหรับในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงตุลาคมของทุกปี ชาวประมงพื้นบ้าน ในพื้นที่ กรณีเป็นเรือประมงขนาดเล็กมักจะจอดเรือหลบอยู่ตามชายฝั่ง และติดตามสถาน การ ลมฟ้าอากาศ การแจ้งเตือน ทางสื่อทุกประเภท ที่สามารถเข้าถึงได้ทั้งทีวีวิทยุ และหอกระจายข่าว ในหมู่บ้านหรือชุมชนที่มีการประกาศหรือแจ้งเตือนจากทางราชการ สำหรับพื้นที่การท่องเที่ยวโดยรอบยังไม่ได้รับผลกระทบ

พร​ชัย​ แซ่​เอี๋ยว​ ผู้สื่อข่าว​ จ.พังงา​

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

หนองบัวลำภู-โนนสังจัดกีฬาต้านยาเสพติด "ภูเก้าคัพเกมส์"

วันที่ (21 พ.ค.65 )ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชมรม To be […]

You May Like

Subscribe US Now