เวลา 11:00 น วันที่ (6 เม.ย.65 ) พ.ต.ท.นริฏฐ์ จันโสดา สวป.สภ.บางปะอิน ร.ต.อ.โพธิมิน วามะขันธ์ รอง สวป. สถานีตำรวจภูธรบางปะอิน (สภ.ย่อยสินทิวา) รับแจ้งเหตุมีชายคุ้มคลั่ง บ้านเลขที่ 53/1 หมู่ 2 ตำบลสามเรือน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงเดินทางไปพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจป้องกันและปราบปราม พร้อมด้วยอุปกรณ์เพื่อทำการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว แบ่งเป็น 3 ห้องนอน ส่วนห้องของผู้ที่ก่อเหตุคุ้มคลั่งอยู่ทางด้านหน้าบ้าน ติดกับถนนหน้าบ้าน ทราบชื่อชายผู้ที่คุ้มคลั่งต่อมา ชื่อนายศักดิ์ชัย รื่นรส อายุ 41 ปี ลักษณะอาการพูดจาโวยวายอยู่ในห้องนอนของตนเอง และมีการด่าทอบุพการีเป็นระยะ และมีการพูดท้าทายกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาจับกุม และพูดว่าในห้องของตนเองมีมีดและกรรไกร ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าเจรจากับนายศักดิ์ชัย เพื่อให้ออกมาคุยกันและสงบสติอารมณ์ ใช้เวลาเกลี่ยกล่อมประมาณ 2 ชั่วโมง ไม่เป็นผล ทางด้านตำรวจจึงถูกโจมพังบานหน้าต่างห้องนอนของนายศักดิ์ชัย เพื่อที่จะใช้ปืนช็อตไฟฟ้ายิงเพื่อเข้าจับกุมแต่นายศักดิ์ชัย แต่นายศักดิ์ชัย ได้วิ่งออกทางประตูห้องนอน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสกัดกั้นแต่ไม่สามารถจับกุมได้เนื่องจาก นายศักดิ์ชัย ได้ใช้ท่อนเหล็กฟาดโล่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเปิดทางหลบหนี แล้ววิ่งออกไปทางหลังบ้าน ทางตำรวจจึงได้ยิงปืนช็อตไฟฟ้า แต่ลูกดอกโดนตัวนายศักดิ์ชัยเพียงลูกเดียว แล้วก็กระโดดลงไปทางด้านหลังบ้าน ซึ่งมีน้ำสูงประมาณ 30 เซนติเมตร และเป็นป่าโสนทึบหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด
พ.ต.ท.นริฏฐ์ จันโสดา สวป.สภ.บางปะอิน กล่าวว่า แม้นายศักดิ์ชัย รื่นรส ชายที่คุ้มคลั่งจะหลบหนีการจับกุมในครั้งนี้ไปได้ แต่ได้มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ ตำรวจสายตรวจและป้องกันปรายปราม สถานีตำรวจภูธรบางปะอิน ได้ออกกดดันและไล่ล่า ตามบ้านเพื่อนของนายศักดิ์ชัยในบริเวณใกล้เคียง และได้แจ้งประชาชนในพื้นที่หากพบเห็นให้โทรแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะอิน ได้ตลอดเวลา เพราะได้จัดชุดปฏิบัติการเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านนายศิลปชัย รื่นรส อายุ 67 ปี ผู้เป็นพ่อได้กล่าวว่า นายศักดิ์ชัย เป็นลูกของตน และมีประวัติเสพยาเสพติดมาเป็นระยะเวลานาน ช่วงหลังมีการเสพยาอย่างหนัก มีการขโมยข้าวของในบ้าน เพื่อนำไปขายเพื่อนำเงินมาซื้อยาบ้าเสพ แล้วได้มีการทำร้ายร่างกายบุคคลในครอบครัว และมีการขู่หากว่ามาขอเงินแล้วไม่ได้ จึงทำให้ทุกคนในบ้านเกิดความตื่นกลัว จนไม่สามารถอยู่ในบ้านได้ ส่วนด้านของ แม่ของนายศักดิ์ชัย เป็นผู้ป่วยติดเตียง ตอนนี้ได้ย้ายไปอยู่กับบ้านญาติเป็นการชั่วคราวก่อน ตนเองไม่รู้จะทำอย่างไรจึงแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุม เพื่อไปบำบัดหรือดำเนินคดีและตนเองก็จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับลูกชายคนนี้ด้วย นายศิลปชัย กล่าว
ณัฐพล กิจที่พึ่ง ผู้สื่อข่าวพระนครศรีอยุธยา