วันที่ (13 ธ.ค.66 )ที่ พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง ภายในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมทำพิธีก่อนจะเริ่มการจัด “งานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” ระหว่างวันที่ 15 – 24 ธันวาคม 2566 ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเฉลิมฉลองที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ตั้งแต่ปี 2534 จากองค์การยูเนสโก มีการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นการขออนุญาตสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองในการจัดงาน รวมถึงเป็นการบวงสรวงบูรพมหากษัตริย์ของกรุงศรีอยุธยา เพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ชาวพระนครศรีอยุธยา และได้ยึดถือปฏิบัติติดต่อกันมาเป็นประจำทุกปี
จากนั้น นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กว่า 1,800 คน สวมใส่ชุดไทย รำถวายประกอบการพิธีบวงสรวง ด้วยเพลง “ยอยศพระรามาธิบดีที่ 1” ซึ่งเป็นเนื้อเพลงบวงสรวงที่กล่าวถึงพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) การกำเนิดของกรุงศรีอยุธยา ศิลปวัฒนธรรม และการทำมาค้าขายที่เจริญรุ่งเรืองในสมัยนั้น
ทั้งนี้ช่วงเช้า นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำส่วนราชการ และพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาร่วมประกอบพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัด ประกอบด้วย ศาลหลักเมือง อยุธยามหาปราสาท บวงสรวงสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) และพระบรมสารีริกธาตุ เป็นปฐมฤกษ์ ก่อนการจัดงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” เพื่อเฉลิมฉลองที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ตั้งแต่ปี 2534 จนถึงปัจจุบันครบรอบ 32 ปี
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ในปีนี้พิเศษกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากครบ 32 ปี ที่ยูเนสโกยกย่องให้อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2534 แห่งการเป็นเมืองมรดกโลก โดยกำหนดจัดงานดังกล่าวขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 24 ธันวาคม 2566 (รวม 10 วัน 10 คืน) ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นการตอกย้ำให้โลกรู้ว่าอยุธยามีดี ตลอดจนเพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) เป็นการสืบสานมรดกทางวัฒนธรรม ประเพณีไทย พร้อมจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมขอเชิญชวนแต่งกายผ้าไทยร่วมประกาศกึกก้องความเป็นเมืองมรดกโลกของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา