สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล.จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ
จนกระทั้งวันนี้(วันที่ 4 ก.ย.66 ) เวลาประมาณ 17.20 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) นำโดย ร.ต.อ.เอกชัย ขุมเพ็ชร รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.ท.ประธาน จตุพันธ์,ร.ต.ท.ธีระยุทธ วันโสภา,ร.ต.ท.ไพบูลย์ ชูวงศ์ รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.1บก.ทล.,ด.ต.สมศักดิ์ จันทาทอง,ด.ต.วิชัย ตามสมัย,ด.ต.ยศภัทร อินต๊ะ,ด.ต.สุธิวัฒน์ มณีรัตน์ ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.1บก.ทล. ได้สำรวจเส้นทาง บริเวณ จ.พระนครศรีอยุธยา พบรถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุก ยี่ห้อ TOYOTA REVO สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข 4ขช-7479 กรุงเทพมหานคร ลักษณะต้องสงสัยมีน้ำหนักที่รถยนต์มากว่ารถยนต์ปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดง แล้วส่งสัญญาณเสียงเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.17-18 ถนนสายเอเชีย ทล.32 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบพบนายพลวัตร คีรีพรรณราย อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 381 หมู่ที่ 8 ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ผู้ผู้ขับขี่รถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุก ยี่ห้อ TOYOTA REVO สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข 4ขช-7479 กรุงเทพมหานคร บรรทุกผู้โดยสารตรวจสอบแล้วเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาจำนวน 6 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดมาแสดง
จากการสอบถามนายพลวัตร คีรีพรรณ คนขับให้การรับสารภาพว่าวันนี้(4 กันยายน 2566) เวลาประมาณ 10.00 น. ได้รับการประสานจากชายเมียนมา (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ประสานงานให้ไปรับแรงานต่างด้าวที่ จ.ลำพูน จำนวน 6 คน เพื่อไปส่งในพื้นที่ปลายทางพื้นที่ โรงงานกระดาษนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยได้รับค่าจ้าง 4,000 บาท/คน ยังไม่ทันถึงปลายทางมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจได้ก่อน พึ่งทำแบบนี้เป็นครั้งแรก
ส่วน แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาที่โดยสารมาเพื่อที่จะไปทำงาน ให้การยอมรับสารภาพผ่านล่ามแปลภาษาว่าได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมาในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่ายการเดินทางภายในประเทศไทย จำนวนเงิน 5,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหานายพลวัตรฯ คนขับ “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” ส่วนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทั้ง 6 คน แจ้งข้อหา“เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”และควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป