ผกก. ตม. จ.อุบลราชธานี สนธิกำลัง บุกจับขบวนการชาวจีนที่แอบมาตั้งฐานทัพตามแนวชายแดนไทย และ ลาว เพื่อส่งต่อคนจีนระดับหัวกระทิหลบหนีเข้าเมืองกรุงในเขตประเทศไทย เพื่อเปิดเวฟพนันและคอเซนเตอร์หลอกลงคนไทยและชาติอื่น ๆ
วันที่ (26 มิ.ย.66) พ.ต.อ.ชัชชัย สำเนียง ผกก.ตม.จ.อุบลราชธานี พร้อมด้วย ร.ต.อ.มณเทียร อุดม รอง สารวัตรปราบปราม ตำรวจท่องเที่ยว และ ร.อ.ไพบูลย์ ขุนภิรมย์กิจ หน.หน่วยกำลังพล นรข.เขตอุบลราชธานี หัวหน้าชุดปฏิบัติการ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดอุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ปฏิบัติการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 5 จุดเพื่อเป็นการป้องกันปราบปราม สกัดกั้น ขบวนการเครือข่ายการลักลอบนำบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย กลุ่มคนต่างด้าวและกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ ที่เข้ามาหรือพักอาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย หรือ เข้ามาก่ออาชญากรรมประเภทต่างๆ
เบื้องต้นผลการตรวจค้นพบที่หน้าบ้านเลขที่ 90 หมู่10 ต.นาแวง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็น 1 ในเป้าหมายของการตรวจค้น ระหว่างวางกำลังและเรียกเจ้าบ้านให้มาแสดงตัวพบว่า มีชายฉกรรจ์อยู่ในบ้าน 4 คน โดย 3 คน ได้พยามยามปีนรั้วออกจากบ้านเลขที่ดังกล่าวไปทางด้านหลัง เจ้าหน้าที่ที่วางกำลังไว้ จึงได้เข้าวิ่งติดตามไปจับกุมได้ทั้งหมด 4 คน และ ตรวจสอบทราบชื่อ 1. นายพรพะนา บุดดาพันธ์ อายุ 46 ปี สัญชาติไทย อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 11 ต.นาแวง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน
ต่อมา เจ้าหน้าที่ ตม. ตรวจบุคคลราย ที่ 2. ทราบชื่อ คือ นายเจียง เจียง Jiang Jiang อายุ 33 ปี สัญชาติจีน ที่อยู่ มณฑลหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน 3.นายเฉิงเม่า เชิ่ง Cheng Mao Sheng อายุ 19 ปี สัญชาติจีน ที่อยู่ มณฑลหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน และ 4.นายเจ้าอุ้ย ฟ้าน Zhao Hun Fan อายุ 22 ปี สัญชาติจีน ที่อยู่ มณฑลหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน
เบื้องต้นนายพรพะนา บุดดาพันธ์ ซึ่งเป็นเจ้าบ้านยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้รับชาวจีนทั้ง 4 คน ที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักของตนจริง โดยรับมาเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.66 เวลา 04.00 น. โดยมีนายหน้าเป็นชาวลาว ขับรถยนต์กระบะสีเทา ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนมาส่งที่บ้านของตน และเวลา 11.00 น. วันนี้ (26 มิ.ย.) ซึ่งจะมีนายหน้ามารับต่อเอง โดยไม่รู้จะส่งไปที่ไหน แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน
สำหรับการตรวจยึดของกลาง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดเป็นรถยนต์ 3 คัน คือ รถตู้ 1 คัน ที่ใช้สำหรับขนส่งชาวจีนเข้ากรุงเทพฯ และ รถเอสยูวี 2 คัน พร้อม อุปกรณ์สื่อสารการใช้ติดต่อการข้ามชาติอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่อยุ่ในขั้นสอบสวน ส่วนข้อหาเบื้องต้นตั้งข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายไว้ก่อน และ ส่งต่อไปยังพนักงานสอบสวน สภ.เขมราฐ จ อุบลราชธานี ดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
ด้านพ.ต.อ.ชัชชัย สำเนียง ผกก.ตม. จ.อุบลราชธานี เปิดเผยต่ออีกว่า วันนี้เป็นการบูรณาการกำลังร่วมกันระหว่างตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดอุบลราชธานี ประกอบด้วยกองกำลังสุรนารี กองกับการ ตชด ตำรวจพื้นที่ สภ. เขมราฐ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ความมั่นคงทั้งหมด ร่วมกันบูรณาการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย เนื่องจากในช่วงนี้มีสถานการณ์การลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของคนสัญชาติลาวและสัญชาติจีน เพื่อส่งต่อไปในเขตพื้นที่ชั้นในของประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ทางเราจึงสนธิกำลังเข้าร่วมดำเนินการตรวจค้นเป้าหมายทั้งหมด 5 จุดและลาดตระเวนอีก 2 จุด ซึ่งผลการตรวจค้น ตรวจพบชาวจีน ซึ่งลักลอบเดินทางเข้ามา เพื่อเข้าไปพื้นที่ชั้นในทั้งหมด จำนวน 3 ราย จึงได้ดำเนินการจับกุมเจ้าบ้าน พร้อมกับคนต่างด้าวชาวจีน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
เนื่องจากพบมีนายหน้าชาวลาวและคนไทย ที่อยู่ในเขตพื้นที่ชายแดนของจังหวัดอุบลราชธานี ตามลำน้ำโขง เพื่อประสานงานส่งชาวจีนต่อ อีกฝั่งหนึ่ง โดยคนพวกนี้ส่วนใหญ่จะเดินทางเข้ามาทำเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือเวฟพนันออนไลน์เป็นหลัก โดยก็ชาวจีนส่วนใหญ่ยังอายุน้อยอยู่ ประมาณ 20 กว่า ถึง 30 ปี ที่สำคัญตรงนี้เรื่องค่าใช้จ่ายก็จะมีนายหน้าแบ่งกันทำเป็นทอดๆ ก็จะเป็นตั้งแต่ต้นทาง เป็นในหน้า ตั้งแต่ฝั่งลาว ประสานนายหน้าฝั่งไทย แล้วก็จะมีนายหน้าฝั่งไทย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ชั้นในมารับอีกต่อหนึ่ง เป็นทอดๆ ที่มีค่าใช้จ่ายหลัก100.000. บาท ซึ่งราคาค่านายหน้าขนชาวจีนเข้าประเทศไทยค่อนข้างสูง เนื่องจากว่า ต้องใช้กระบวนการหลายทอด และที่สำคัญขณะนี้กลุ่มชาวจีนเริ่มหันมาใช้เส้นทางตามแนวชายแดนไทย เขต จ อุบลราชธานี เพราะเป็นเส้นทางสะดวก
ดังนั้น จากการจับกุมหาข่าว ตรงนี้เป็นนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี และ ผบ.ตร. ที่ให้เข้มงวดตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการลักลอบคนจีนโดยไม่มีหนังสือเดินทางหรือว่าอาจจะเป็นบุคคลที่ห้ามเดินทางเข้า – ออก ประเทศ ก็มีการลักลอบเข้าในเขตพื้นที่ชายแดน ซึ่งตรงนี้เอง ตม จ.อุบลราชธานี เราสนธิกำลังทุกหน่วยเพื่อป้องกันออกตรวจโดยสม่ำเสมอต่อไป
อภิสิทธิ์ เสมอภาค จ อุบลราชธานี