เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ความคืบหน้า ป.ป.ช.พิจิตร ลงพื้นที่ตรวจสอบ โครงการสร้างแพสูบน้ำด้วยพลังงานไฟฟ้า งบปี 64/65 มี 2 แห่ง สร้างเสร็จเบิกเงินเรียบร้อย แต่ใช้งานไม่ได้ โดยพบว่า โครงการแรกเป็นโครงการจ้างก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านย่านยาว ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) เป็นโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของจังหวัด/กลุ่มจังหวัด งบประมาณ 20,021,000 บาท ราคาที่จัดซื้อจัดจ้าง 15,743,210 บาท มีห้างหุ้นส่วนจำกัด ดี อาร์ ที เทรดดิ้ง เป็นผู้รับจ้าง วันที่เริ่มต้นสัญญา วันที่ 5 มีนาคม 2564 วันที่สิ้นสุดสัญญา 27 กันยายน 2564 มีโครงการชลประทานพิจิตร เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินโครงการ
ที่สอง เป็นโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำรับแรงดันและอาคารประกอบพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 160 KW สำหรับงานก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านคลองตามี ต.บ้านน้อย อ.โพทะเล จ.พิจิตร โดยวิธีคัดเลือก เป็นโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ของจังหวัด/กลุ่มจังหวัด งบประมาณ 32,541,000 บาท ราคาที่จัดซื้อจัดจ้าง 32,530,000 บาท มีห้างหุ้นส่วนจำกัด วงศ์สระหลวงก่อสร้าง เป็นผู้รับจ้าง วันที่เริ่มต้นสัญญา 19 มกราคม 2565 มีโครงการชลประทานพิจิตร เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินโครงการ
โดย นายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยเจ้าป้องกันการทุจริต ได้ลงพื้นที่ ต.รังนก อ.สามง่าม จังหวัดพิจิตร ร่วมกับ ชมรม Strong จิตพอเพียงต้านทุจริต ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิจิตร ผู้แทนองค์กรบริหารส่วนตำบลรังนก และผู้แทนชาวบ้าน ตรวจสอบโครงการโครงการแรกเป็นโครงการประกวดราคาจ้างก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านย่านยาว ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร พบว่าโครงการนี้ประกอบด้วย แพสูบน้ำ บ้านพักผู้ดูแลระบบสูบน้ำด้วยไฟฟ้า และท่อส่งน้ำพร้อมหัวจ่ายความยาวประมาณ 3400 เมตร ดำเนินการก่อสร้างเมื่อปีงบประมาณ 2564 หลังจากก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2564 โครงการชลประทานพิจิตรได้ทำหนังสือส่งมอบให้กับสำนักงานจังหวัดพิจิตร เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันยังไม่สามารถถ่ายโอนให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลรังนกได้ และพบว่าระบบส่งน้ำดังกล่าวหลังจากก่อสร้างแล้วเสร็จยังไม่ถูกใช้งาน
หลังจากนั้นได้เดินทางต่อไปยัง โครงการระบบส่งน้ำบ้านคลองตามี ต.บ้านน้อย อ.โพทะเล จ.พิจิตร พบว่าโครงการนี้เป็นโครงการของจังหวัดพิจิตร ปีงบประมาณ 2565 ในโครงการประกอบด้วยแพสูบน้ำ ท่อส่งน้ำพร้อมหัวจ่าย และอาคารที่พักผู้ดูแลสถานีสูบน้ำ หลังจากก่อสร้างแล้วเสร็จ โครงการชลประทานพิจิตรได้ทำการส่งมอบให้กับสำนักงานจังหวัดพิจิตรแล้วปัจจุบันติดปัญหาเรื่องการส่งมอบให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านน้อย ทำให้ยังไม่ได้เดินเครื่องใช้งานระบบส่งน้ำได้ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า
- โครงการประกวดราคาจ้างก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านย่านยาว ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2564 ปัจจุบันยังไม่ได้เริ่มใช้งาน เนื่องจากติดปัญหาการถ่ายโอนทรัพย์สินในโครงการให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลรังนก และโครงการนี้จะสิ้นสุดระยะเวลารับประกันผลงานวันที่ 27 กันยายน 2566
- โครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำรับแรงดันและอาคารประกอบพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 160 KW สำหรับงานก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านคลองตามี ต.บ้านน้อย อ.โพทะเล จ.พิจิตร โดยวิธีคัดเลือก ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ เมื่อเดือนกันยายน 2565 หลังจากก่อสร้างเสร็จยังไม่ได้ใช้งาน เนื่องจากติดปัญหาการถ่ายโอนทรัพย์สินในโครงการให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านน้อย
- ทั้ง 2 โครงการเป็นโครงการตามแผนปฏิบัติราชการของจังหวัดพิจิตร ในปีงบประมาณ 2564 และ 2565 โดยมีโครงการชลประทานจังหวัดพิจิตร เป็นหน่วยดำเนินงาน หลังจากดำเนินโครงการแล้วเสร็จ ได้ส่งต่อให้กับสำนักงานจังหวัดพิจิตร สำนักงานธนารักษ์พื้นที่พิจิตร เป็นหน่วยถ่ายโอนที่ดินสิ่งปลูกสร้าง/ทรัพย์สินของโครงการ ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เป็นผู้รับผิดชอบดูแลรักษาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาประสบปัญหาเกี่ยวกับการถ่ายโอนระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากไม่ดำเนินการโดยเร็ว จะทำให้เกษตรกรขาดโอกาสในการใช้ประโยชน์จากโครงการดังกล่าว ทำให้ทรัพย์สินในโครงการได้รับความเสียหาย ชำรุด เสื่อมสภาพ จนอาจไม่สามารถถ่ายโอนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้
ซึ่งปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นทั้ง 2 โครงการใช้งบประมาณ ซึ่งเป็นเงินภาษีของแผ่นดินมากถึง 47 ล้านบาท แต่หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่กลับปล่อบปะละเลยไม่ดำเนินการ เรื่องงานเอกสารและการถ่ายโอน ดังนั้นงานนี้ นายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร จึงจะได้ดำเนินการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมชี้แจงเพื่อหาทางออกด้านข้อกฎหมายเพื่อให้แพสูบน้ำทั้ง 2 แห่ง สามารถช่วยเหลือชาวนาที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าวกว่า 4 พันไร่ ให้ได้มีน้ำทำนาตามวัตถุประสงค์ของโคงการดังกล่าวต่อไป
สิทธิพจน์ เกบุ้ย จ.พิจิตร