วันที่ (17 ธ.ค.64 )บริษัท ซีพีไอ ทรานสปอร์ต จำกัด ได้ประสานเรือเครนเพื่อมาทำการกู้เรือยนต์ลากจูงที่จมลง ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา บริเวณสามแยกแม่น้ำเจ้าพระยา-แม่น้ำป่าสัก ใกล้เคียงท่าน้ำวัดพนัญเชิงวรวิหาร อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย ซึ่งผู้เสียชีวิต 1 ใน 2 รายนี้ เป็นหญิงยังไม่พบร่าง ทั้งนี้ทางบริษัท ซีพีไอ ทรานสปอร์ต จำกัด ได้โทรศัพท์แจ้งครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้สูญหาย ให้มาดูการกู้เรือในครั้งนี้ด้วยที่บริเวณท่าน้ำวัดพนัญเชิงวรวิหาร
จากการสอบถาม นางสาวสุพรรษา ฤทธิ์ฉิม อายุ 22 ปี ชาว ต.ปากจั่น อ.นครลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นลูกของ นางนฤมล ธารกูล ผู้เสียชีวิตที่ยังไม่พบร่าง ได้กล่าวว่า “ตนเองกับ บริษัท ซีพีไอ ทรานสปอร์ต จำกัด ได้โทรพูดคุยติดต่อกันตลอดถึงเรื่องการที่จะกู้เรือที่จมลงไปขึ้นมา และเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่าน ทางบริษัทได้โทรศัพท์มาแจ้งตนว่าจะมีการกู้เรือในช่วงก่อนปีใหม่นี้ ซึ่งตนเองก็ไม่คิดว่าจะมีการกู้เรือได้เร็วขนาดนี้ และหลังจากนั้นก็ได้โทรศัพท์มาแจ้งเตือนว่าจะมีการกู้เรือที่จมลงไปในวันนี้ ตนจึงรู้สึกดีใจในวันนี้จึงเดินทางมาพร้อมกับญาติๆ มาตั้งแต่ช่วงเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา เพื่อมาดูการกู้เรือที่จมลงในครั้งนี้ คิดว่าคงจะได้พบร่างของผู้ที่เป็นแม่ แต่อีกใจนึงก็ไม่อยากคาดหวังเพื่อไม่ให้ผิดหวังและเสียใจมาก” นางสาวสุพรรษา กล่าว
ในการกู้เรือยนต์ลากจูงที่จมลงในครั้งนี้ ทางบริษัท ซีพีไอ ทรานสปอร์ต จำกัด ได้ประสานเรือเครนกู้เรือมาจากกรุงเทพมหานคร เพื่อมาทำการกู้เรือที่จมลงอยู่ในแม่น้ำ ในครั้งนี้ ส่วนเรือยนต์ลากจูงที่จมลง เป็นเรือเหล็กขนาดความยาวประมาณ 12 เมตร ซึ่งเป็นเรือยนต์ลากจูงที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการกู้เรือขึ้นมา ซึ่งเรือเครนที่มากู้เรือในครั้งนี้ ก็จะพยายามกู้เรือขึ้นมาให้ได้โดยเร็วที่สุด
ณัฐพล กิจที่พึ่ง ผู้สื่อข่าวพระนครศรีอยุธยา