เสียงโห่สามลา เสียงเพลงดังกระหึ่ม สนุกสนานในงานบุญกฐินสามัคคี ที่วัดเกาะแก้ว อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ที่มีพี่น้องประชาชนที่มีจิตศรัทธาจากทั่วสารทิศร่วมในงานบุญใหญ่ครั้งนี้ แต่ที่ทำให้นักบุญต่างจังหวัด ต้องงงงวยกับสิ่งที่ไม่เคยเจอมาก่อนว่าที่เรามาวนแห่กฐินรอบโบสถ์หรือรอบตึกกันแน่
ภายในงานทอดกฐินในวันนี้ (31 ต.ค.65 ) ซึ่งถ้ามองเผินๆ วันนี้ก็จะเหมือนงานกฐินทั่วๆไป ที่ก่อนจะนำไปถวายพระหรือวัดก็ต้องมีการแห่วนรอบโบสถ์ 3 รอบตามธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลายคนที่มาทอดกฐินวัดนี้ สงสัยว่าไม่เห็นมีโบสถ์ แต่ที่เห็นเป็นตึก 2 ชั้น มีดาดฟ้าประตูเหล็ก มีใบเสมา ธรรมจักรรอบตึก แต่วันนี้ผู้มาทำบุญ มีนางรำ มีรถแห่นั่นแหละคือโบสถ์ของวัดเกาะแก้วซึ่งมีมาเกือบ 50ปี โดยเจ้าอาวาสและพระลูกวัด ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล ยืนยันว่านี่คือโบสถ์
นางราตรี ปาสาเนาว์ สมาชิก อบต.ต.เกาะแก้ว เล่าว่าเมื่อประมาณ ปี 2522 สมัยเจ้าอาวาสองค์แรกสร้างไว้เพื่อจะใช้เป็นกุฏิ แต่ด้วยความจำเป็นของวัดที่จะต้องมีโบสถ์เพื่อใช้ทำพิธีทางศาสนาต่างๆ หลังจากเจ้าอาวาสรูปแรกได้มรณภาพไป จึงนำกุฏิหลังนี้มาเป็นโบสถ์โดยได้ทำพิธีบวชให้กับพระภิกษุสงฆ์มาแล้วไม่ต่ำกว่า 50-60 องค์ ซึ่งมองเผินๆ จริงๆ ก็ไม่คล้ายโบสถ์ แต่ด้วยความจำเป็นที่เป็นหมู่บ้านเล็ก เพียง 50 กว่าหลังคาเรือน ประชากรไม่เกิน 300 คน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา ทำไร่ รับจ้าง ไม่ค่อยมีผู้มาทำบุญ จึงต้องปล่อยไปตามกาลเวลา แต่พระ ชาวบ้านก็ยังคงรักษาเอาไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์สถาน
ด้านนายศักดิ์ดา ช้างน้อย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านเกาะแก้ว ผู้ซึ่งคลุกคลีอยู่กับวัดมาตั้งแต่เกิดเล่าว่า พ่อ ตนเอง ญาติก็ได้บวชเรียนที่วัดแห่งนี้ และที่โบสถ์ตึกสองชั้นนี้มาเช่นกัน จะว่าเป็นเรื่องแปลกก็ใช่ ใครเห็นก็งง สงสัยเป็นโบสถ์ได้อย่างไร แต่ทางเจ้าอาวาสได้นำเอกสารต่างๆ ประกอบเพื่อให้สำนักพุทธอนุมัติเป็นพระอุโบสถใช้ชั่วคราวเมื่อประมาณ ต้นปี 2522-2523 และได้รับอนุญาตเมื่อปี 2527 เป็นต้นมา ซึ่งหวังว่าสักวันจะมีผู้มีจิตศรัทธามาสร้างพระอุโบสถให้ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสนั้น เนื่องจากการสร้างโบสถ์ต้องใช้เงินมหาศาล จนถึงปัจจุบันกาลเวลาทำให้ต้องงดให้โบสถ์ตึกหลังนี้เพราะรากฐานโบสถ์ไม่มั่นคงถาวร หากใครจะบวชต้องไปวัดใกล้บ้าน
นายศักดิ์ดา ผญบ.เล่าต่อว่าเมื่อวานวันที่ 30 ต.ค. 65 ได้มี อาจารย์แห้ว หรืออาจารย์ณรงค์ศักดิ์ คูกิตติรัตน์ หมอดูเทวาดตาทิพย์ เจ้าของศาลนาคราช อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ได้นำกฐินสามัคคีมาทอดที่วัดเกาะแก้วแห่งนี้ สร้างความเคลือบแคลงสงสัยให้กับประธาน ผู้ที่มาร่วมงานบุญอย่างมาก นักบุญต่างมีความสงสารที่วัดต้องขาดโบสถ์ ต่างควักเงินทำบุญเพิ่มเติมจนได้ได้ยอดกฐินให้กับวัดเล็กๆแห่งนี้ถึง 1,000,183 (หนึ่งล้านหนึ่งร้อยแปดสิบสามบาท) ซึ่งหลายคนเชื่อว่าได้ทำบุญทีวัดนี้มีความสุขใจ และยังเชื่ออีกว่า ได้มาวนรอบโบสถ์ตึกเก่าแก่แห่งนี้มีมนต์ขลังดี อาจจะมี”โชค 2 ชั้น 2 ต่อ “ตามโบสถ์ อีกด้วย สำหรับเลขมงคลที่ได้คือเลขท้ายยอดเงินกฐิน 183 และเลขกระถางธูปที่ประธานที่จุดต่อหน้าพระประทานในโบสถ์ได้แก่เลข 407 สร้างความฮือฮาให้กับนักบุญต่างวิ่งหาเลขมงคลดังกล่าวภายในอำเภอจนเกลี้ยงแผง
ทั้งนี้พระบัวลา ภัทสัมปันโน อายุ 77 ปี เจ้าอาวาส เล่าให้ฟังถึงเรื่องที่เป็นความเชื่อเกี่ยวกับโบสถ์หลังนี้ให้ฟังว่าได้นิมิตรว่า “มีคนรูปร่างขนาดใหญ่มาเข้าฝัน โดยในฝันคนดังกล่าวมีลักษณะรูปร่างใหญ่ตัวใหญ่ ตัวดำมานั่งขัดสมาธิคุยกับตน ซึ่งในฝันหลวงพ่อต้องแหงนหน้าคุยเพราะตัวหลวงพ่อสูงแค่หัวเข่าของเขาเอง โดยมาบอกว่า ภายในวัดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีพระพุทธรูปทองคำฝังอยู่ใต้ดินพื้นที่วัด โดยเรื่องนี้ก็ไปตรงกับชาวบ้านที่ไปทำงานนอกพื้นที่บอกในฝันมีชายร่างสูงใหญ่มาบอกว่ามีพระทองคำอยู่ในวัดเหมือนกัน แต่ทางหลวงพ่อก็ยัง
กฤษณ์ สนใจ จ. ลพบุรี