ผู้สื่อข่าว ได้รับแจ้ง จากนางดวงเดือน ประเสริฐศิลป์ อายุ 58 แม่ค้าส้มตำ ติดกับที่ทำการชุมชนบริรักษ์บำรุง ซอยโรงเรือ ถนนบริรักษ์บำรุง ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา ว่ามีหญิงชราทนทำงานดูแลเหลน 2 คน อายุเพียง 8 ขวบ และ 5 ขวบ ส่วนแม่ของเด็กซึ่งเป็นหลาน หายจากบ้านนานกว่า 2 เดือน ผู้สื่อข่าวจึงเข้าตรวจสอบเหตุดังกล่าวที่บ้านเช่า เลขที่ 105/1 ม.3 ต.นบปริง อ.เมืองพังงา ซึ่งมีนางประทุมมา สมฤทธิ์ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ม.2 ต.บ้านเสด็จ อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นผู้เช่า พร้อมเด็กๆอีก 2 คน อยู่ในวัยน่ารักน่าเอ็นดู
สอบถามนางประทุมมา หรือ ทวดเล็ก เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนเองเดินทางมาอาศัยในจังหวัดพังงา นานกว่า 20 ปี โดยมีลูกสาวและหลานสาว ชื่อ น.ส.แพรวพรรณ สมฤทธิ์ ปัจจุบันอายุ 27 ปี ส่วนลูกสาวเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ กระทั่งหลานสาวมีลูก ตนเองจึงเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ ส่วนพ่อเด็กได้แยกทางกันมานานแล้ว ตนเองและหลานสาว เลี้ยงดูเด็กๆมาตลอด กระทั่งเมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา หลานสาวแจ้งว่าจะออกจากบ้านไปหางานทำ ในจังหวัดใกล้เคียง จากนั้นไม่ติดต่อมาอีกเลย ครั้งสุดท้ายเมื่อกลางเดือน กรกฏาคม 2565 หลานสาวโทรมาแจ้งว่าอยู่ที่ ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา จะกลับบ้านขอเงินจำนวน 200 บาท ตนเองจึงโอนเงินให้ แต่หลานสาวกลับเงียบหาย จึงพยายามติดต่อทั้งโทรศัพท์ ติดต่อทางเฟสบุค แอพพิเคชั่นไลน์ ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้ตนเองเป็นห่วงและเกรงว่าจะเป็นอันตราย อีกทั้งต้องการให้หลานสาวกลับมาดูแลเหลนทั้งคู่ เนื่องจากตนเองอายุมาก ใกล้จะทำงานไม่ได้จาการที่แก่ตัว ซึ่งตนเองต้องการกลับบ้านที่ลำปางแต่ไม่มีเงิน อีกทั้งเหลนคนเล็กตนเองหนักใจมากเนื่องจากอายุ 5 ขวบ น่าจะสื่อสารพูดจาได้แต่กลับพูดจาไม่รู้เรื่อง จึงอยากให้ภาครัฐเข้าช่วยเหลือบ้าง
ด้าน นางดวงเดือน ประเสริฐศิลป์ อายุ 58 แม่ค้าส้มตำ ผู้แจ้งเรื่องนี้ กล่าวว่า ตนเองเป็นคนบ้านเดียวกับทวดเล็ก ซึ่งทวดเล็ก มักมาปรึกษาขอความช่วยเหลือจากตนเองว่าทำอย่างไรกับเหตุนี้ได้บ้าง ซึ่งตนเองมองว่า แม่เด็กไม่น่าจะกลับมาหาลูก โดยแม่เด็กมีพฤติกรรมติดเกมออนไลน์อย่างหนัก อยากบอกแม่เด็กว่า “ให้กลับมาดูแลลูกๆ และกลับมาหาหนทางช่วยเหลือกัน”
พรชัย แซ่เอี๋ยว ผู้สื่อข่าว จ.พังงา