สุดผวา! ชาวบ้านตวาดไล่หนุ่มพิการ วัย 35 ปี ก่อเหตุข่มขืนควายกลางดึก เผยทำกับคนและสัตว์ใหญ่มาแล้วหลายครั้ง

ชาวบ้านเตาแดก ต.ตรวจ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ สุดจะทน เจอหนุ่มพิการกำลังทำอนาจารกับควายกลางดึก พากันตวาดไล่จนจนมุม สุดงง ผู้ก่อเหตุเดินเข้าไปนอนในบ้านอย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ชาวบ้านเผยความแสบ ก่อเหตุข่มขืนควาย 2 ครั้ง วัว 2 ครั้ง ผู้สูงอายุ และคนพิการมาแล้ว โดยยังไม่มีใครเข้าแจ้งความ เจ้าของควายสุดทนเป็นครั้งที่ 2 เห็นคาตา แจ้งความให้ ตร.ช่วย หวั่นก่อเหตุซ้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่าเมื่อวันที่ 22 พ.ย.64  ที่บริเวณคอกควายของ นางกอง สอนนนท์ อายุ 63 ปี 6 บ้านเตาแดก ต.ตรวจ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ นางกอง พร้อมหลานข้างบ้านได้พาผู้สื่อข่าวเดินดูบริเวณคอกควาย หลังเมื่อคืนวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น. ได้มีชายพิการที่อยู่บ้านใกล้กันชื่อนายบิ๊ก(นามสมมุติ) อายุราว 35-40 ปี ก่อเหตุข่มขืนควาย โดยได้ทิ้งกางเกงในสีฟ้าพาดไว้ 1 ตัว ซึ่งขณะที่ตนส่องไฟไปเห็นผู้ก่อเหตุ ได้เดินหลบหนีเข้าไปหลบในพงหญ้าหลังสวน โดยนางกอง สอนนนท์ อายุ 63 ปี และนายอิศเรศ ทาจารวัฒน์ (ทา-จา-ระ-วัด) อายุ 18 ปี (เพื่อนบ้านที่ลงมาช่วย) ได้สาธิตให้ผู้สื่อข่าวดูลักษณะที่ผู้ร้ายกำลังกระทำ โดยผู้ก่อเหตุได้ยืนดึงเชือกควายที่ผูกติดไว้กับคอก โดยยืนหันหน้าเข้าหากัน ผู้ก่อเหตุสวมเสื้อยืดสีเหลือง ส่วนท่อนล่างล่อนจ้อน ไม่ได้ใส่อะไรเลย ในขณะที่เห็นตนทั้ง 2 เดินมา ผู้ก่อเหตุได้เดินหลบหนีเข้าไปหลบที่หลังสวน ซึ่งจะมีพงหญ้าขนาดใหญ่ที่ปลูกไว้เลี้ยงสัตว์ ระยะทางราว30 เมตรจากจุดเกิดเหตุ เมื่อค้นหาตัวผู้ก่อเหตุจนเจอ ทางด้านผู้ก่อเหตุเองก็ได้ลุกเดินเข้าบ้านไปใส่กางเกงเข้านอนตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยชาวบ้านที่ยืนดูเหตุการณืต่าง งง ไปตามๆกัน

นางกอง สอนนนท์ อายุ 63 เลขที่ 88 ม.6 บ้านเตาแดก ต.ตรวจ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ เล่าว่า ยายอยู่กับตา 2 คนในบ้าน ลูกๆไปทำงานต่างพื้นที่หมด เมื่อคืน วันที่ 21 พ.ย. เวลาประมาณ 22.00 น. ตนกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในบ้าน จู่ๆได้ยินเสียงหมาเห่า แถวๆคอกควายของตน ซึ่งอยู่ห่างจากตัวบ้านราว 50 เมตร สักพักได้ยินเสียงเหมือนมีคนเอาไม้มาตีอะไรสักอย่าง ตนเอะใจอาจจะมีอะไรที่คอกควายของตน ตนจึงคว้าไฟฉายออกมาดู พอส่องมาเท่านั้นแหล่ะ พบเป็นชายรูปร่างดี ใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีเหลือง ส่วนท่อนล่างไม่ได้ใส่อะไรเลย ขณะนั้นตนเองตกใจมาก เรียกสามีให้ลงมา สามีตนคงไม่ได้ยินเลยไม่ได้ลงมา เรียกหลานข้างบ้านก็ไม่ตื่น ตนเลยวิ่งไปเรียกหลานที่อยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง หลานจึงได้วิ่งลงมาดู โดยขณะนั้นเอง ตนเห็นคนร้ายยืนจับเชือกควายอยู่ในลักษณะควายถูกมัดไว้กับคอกหันหน้าเข้าหาผู้ก่อเหตุ ระหว่างที่ตนส่องไฟใส่ผู้ก่อเหตุนั้น ผู้ก่อเหตุได้เดินหลบเข้าไปในพงหญ้า โดยได้ทิ้งกางเกงในสีฟ้า พาดไว้ที่คอกวัวเป็นหลักฐาน

นางกอง ได้เล่าเพิ่มเติมว่า ผู้ก่อเหตุชื่อนายบิ๊ก(นามสมมุติ) อายุราว 35-40 ปี พิการขาขวาเนื่องจากอุบัติเหตุทาง จยย.เมื่อหลายปีก่อน สถานะอย่าร้างกับเมีย อาศัยอยู่กับแม่อายุ 64 ปี โดยบ้านผู้ก่อเหตุอยู่ห่างจากคอกวัวตนราว 100 เมตร โดยที่ผู้ก่อเหตุได้ทำในลักษณะนี้มาหลายครั้งแล้ว โดยเฉพาะกับควายของตน ครั้งนี้ที่ตนเห็นตัวเป็นๆ คือครั้งที่ 2 แล้ว ครั้งก่อนตนไม่เอาเรื่อง แต่ครั้งนี้ตนทนไม่ไหวจริงๆ จึงได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ศรีณรงค์ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้บอกมาว่า เป็นเหตุการณ์แรกในพื้นที่ ไม่เคยมีมาก่อน โดยจะได้เชิญผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำในวันพรุ่งนี้
สำหรับผู้ก่อเหตุ เป็นคนปกติดี สามารถเล่นโทรศัพท์ได้เหมือนคนปกติ ซึ่งตนเห็นแบบนี้ตนก็รู้สึกกลัว เพราะส่วนใหญ่วัยรุ่น หรือผู้ชายในหมู่บ้าน มักจะออกไปรับจ้างตัดอ้อยกันหมด จะเหลืออยู่บ้านก็มีแต่ผู้หญิงแก่ๆ หากเกิดอะไรขึ้นคงรับมือไม่ไหวแน่

ทางด้าน นายอิศเรศ ทาจารวัฒน์ อายุ 18 ปี (เพื่อนบ้านที่ลงมาช่วย) ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า หลังจากที่ตนได้ยินยายเรียกขอความช่วยเหลือ ตนจึงรีบวิ่งออกมาดู พบว่า ผู้ก่อเหตุได้เดินออกไปจากคอกควายแล้ว ซึ่งผู้ก่อเหตุพิการขาเป๋เลยไม่สามารถวิ่งได้ ตนจึงได้เดินตามหาด้านหลังคอกควาย อยู่ระหว่างคอกควายกับบ้านผู้ก่อเหตุ ตนได้ยินเสียงใบไม้ขยับ เลยเดินตามเสียงไป เห็นผู้ก่อเหตุนอนหมอบอยู่ในกอหญ้า ตนจึงเรียกให้ชาวบ้านมาช่วยกันดู โดยในคืนนั้นมีชาวบ้านหลายคนที่เห็น สักพักผู้ก่อเหตุได้ลุกเดินไปเข้าบ้าน ใส่กางเกงนอนตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยที่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาหลายรอบแล้ว โดยเฉพาะควายของยายกอง สอนนนท์ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว เกิดขึ้นกับวัวของชาวบ้านอีก 1 รอบ ชาวบ้านได้ย้ายคอกวัวออกไปอยู่ใกล้บ้าน ก็ถูกผู้ก่อเหตุกระทำซ้ำเป็นครั้งที่ 2 เช่นกัน โดยก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุรายดังกล่าว ได้ย่องขึ้นไปข่มขืนผู้สูงอายุรายหนึ่ง และผู้พิการอีกรายหนึ่งในหมู่บ้าน แต่สามารถพูดคุยตกลงกันได้โดยไม่ได้ขึ้นโรงขึ้นศาล โดยผู้เป็นแม่ของผู้ก่อเหตุเองก็ลำบากใจ ไม่สามารถด่าหรือสอนลูกได้ มีแต่ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย สำหรับผู้ก่อเหตุนั้น เป็นคนชอบดื่มเหล้า อาจทำให้เกิดอารมชั่ววูบก็เป็นได้

ทีมข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

รถกระบะตู้ทึบพุ่งชนท้ายรถบรรทุกพ่วงจอดติดไฟแดง จนพังยับเยิน เจ็บ 1

วันที่ 24 พ.ย.2564 เวลา 22.30 น. ร.ต.ท.หญิงปรีดา ข […]

You May Like

Subscribe US Now