เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) นำโดย ร.ต.อ.เอกชัย ขุมเพ็ชร รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.ท.ประธาน จตุพันธ์,ร.ต.ต.มนัส เนียมแย้ม รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.1บก.ทล.,ด.ต.สมศักดิ์ จันทาทอง,ด.ต.วิชัย ตามสมัย,ด.ต.ยศภัทร อินต๊ะ,ด.ต.อดิศร มะตูม,ด.ต.นพดล เหมือนเผ่าพงษ์,ด.ต.อิทธิพล วงศ์คำจันทร์,ส.ต.อ.กิตติศักดิ์ อาตนะทอง ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.1บก.ทล. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.(นครปฐม) นำโดย ร.ต.ต.ฉลาด ใจแก้ว,ร.ต.ต.อัชสิทธิ์ น้ำดอกไม้ รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.2บก.ทล.ตม. ได้ทำการจับกุมนายสุริยา แซ่ม้า อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ที่ 11 ต.เชียงของ อ.วังเจ้า จ.ตาก ผู้ขับขี่รถยนต์นั่งสองตอนแวน ยี่ห้อ ISUZU สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ขข-5792 นครสวรรค์ และ บุคคลต่างด้าวสัญชาติ เมียนมาจำนวน 15 คน เข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย
สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวและผู้นำพาในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ,จ.ปทุมธานี และ จ.นนทบุรี อยู่บ่อยครั้ง กก.1 บก.ทล.ได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน จากการสืบสวนทราบว่าขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวดังกล่าวน่าจะใช้เส้นทางลักลอบขนคนต่างด้าวเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน จึงได้สั่งการให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพระนครศรีอยุธยา เฝ้าติดตามดูตามเส้นทางต้องสงสัยว่าจะมีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
จนกระทั้งเมื่อวันที่10 สิงหาคม 2566 เวลาประมาณ 18.40 น.ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้สำรวจเส้นทาง ทล.340 ถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา พบรถยนต์นั่งสองตอนแวน ยี่ห้อ ISUZU สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ขข-5792 นครสวรรค์ โดยมีน้ำหนักที่รถยนต์มากว่ารถยนต์ปกติ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดง เรียกให้รถคันดังกล่าวหยุดจอด แต่รถคันดังกล่าวกลับเร่งความเร็วขับรถหลบหนีไปตามซอยหมู่บ้านชนบทซึ่งเป็นซอยแคบแซงซ้ายแซงขวารถคันอื่นโดยประมาทหวาดเสียว จนทันที่บริเวณ กม.1 หมู่ที่ 10 ทล.3422 ต.บัวปากท่า อ.บางเลน จ.นครปฐม ระยะทางหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 20 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนขอตรวจค้นพบ นายสุริยา แซ่ม้า อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ที่ 11 ต.เชียงของ อ.วังเจ้า จ.ตาก ผู้ขับขี่รถยนต์นั่งสองตอนแวน ยี่ห้อ ISUZU สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ขข-5792 นครสวรรค์ โดยได้บรรทุกบุคคลที่เป็นผู้โดยสารอีก 15 คนมากับรถยนต์คันดังกล่าว เป็นบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จึงได้นำตัวมายัง หน่วยบริการตำรวจทางหลวงนพวงศ์ จ.ปทุมธานี เพื่อทำการสอบสวน ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา เบื้องต้นตรวจสอบไม่พบข้อมูลการอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรจากเจ้าพนักงานตรวจคนเช้าเมืองแต่อย่างใด และมี 2 คน เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใด แอบเดินทางเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ
จากการสอบถามนายสุริยา แซ่ม้า คนขับ ให้การรับสารภาพว่า เมื่อ10 สิงหาคม 2566 เวลาประมาณ 11.00 น. ได้รับการประสานจากชายชาวเมียนมา(ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้ไปรับแรงานต่างด้าวที่บริเวณ ป่าข้างทาง พื้นที่ ต.แม่ท้อ อ.เมืองตาก จ.ตาก จำนวน 15 คน เพื่อไปส่งในพื้นที่ปลายทาง ในพื้นที่ จ.นนทบุรี โดยได้รับค่าจ้าง 1,500 บาท/คน รู้ดีอยู่แล้วว่าแรงานต่างด้าวทั้ง 15 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง
ส่วนแผ่นป้ายทะเบียนนั้นตอนรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 15 คัน พื้นที่ อ.เมืองตาก จ.ตาก ได้ใช้แผ่นป้ายทะเบียน สต-4199 กรุงเทพมหานคร ติดที่ด้านหน้าและด้านท้ายของรถยนต์ พอขับมาเรื่อยๆถึง จ.นครสวรรค์ ได้ขับเลี้ยวเข้าป่าข้างทางเพื่อเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ขข-5792 นครสวรรค์ จำนวน 2 แผ่น เพื่อหลบหนีตำรวจไม่ให้มีการตรวจจับได้ง่าย จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ โดยตนนั้นได้กระทำแบบนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว
จากการสอบถามบุคคลต่างด้าวผ่านล่ามให้การยอมรับว่าได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่ายเงินให้กับนายหน้าที่นำพาเข้าประเทศไทย ในราคาประมาณ 20,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา คนขับ ฐาน “1.รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม,2.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น,3.ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรฯ,4.ใช้เครื่องหมายที่นายทะเบียนออกให้สำหรับคนหนึ่งกับรถอีกคันหนึ่ง ความผิดตามพ.ร.บ.รถยนต์ 2522 ม.67(2)” และ บุคคลต่างด้าวทั้ง15คน ฐาน“เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากนั้นได้ควบคุมตัว พร้อมของกลางมาทำบันทึกการจับที่ ตำรวจทางหลวงนพวงศ์ จ.ปทุมธานี และนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบางหลวง ภ.จว.นครปฐม ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
