ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี พบคราบน้ำมันบริเวณ ชายหาดโรงแรม JW Marroitt เขาหลัก ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา โดยวันนี้วันที่ (3 ส.ค.66 )ชุดปฏิบัติงานของกรมเจ้าท่าร่วมกับศูนย์อนุรักทรัพยากรป่าชายเลนที่ 10 (ตะกั่วป่า) , ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน(ภูเก็ต) และ ศูนย์ความมั่นคงท่าเรือ จ.พังงา ได้เข้าตรวจสอบในพื้นที่ชายหาดคึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา อีกครั้ง พบว่ายังมีคราบน้ำในอยู่บ้างทั้งเล็กและใหญ่ โดยได้ร่วมกันเก็บกวาดคราบน้ำมันดังกล่าวเพื่อนำไปกำจัดต่อไป
โดยนางสาวสุภาพร บุตรปอด เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน กรมเจ้าท่า เผยว่า คาดว่าน้ำมันนั้นจากที่ดูลักษณะแล้วคาดว่าเป็นน้ำมันเตา ซึ่งเกิดมาได้จากเรือสินค้า แต่จะเป็นน้ำมันจากเรือสินค้าที่แล่นผ่านบริเวณนี้หรือไม่นั้น ก็ยังไม่สามารถฟันธงได้ เพราะยังอยู่ในขั้นตอนของการสืบหาข้อเท็จจริง ในเบื้องต้นดูลักษณะแล้วคือเป็นน้ำมันเตาซึ่งเกิดจากเรือสินค้าโดยหลักที่ถูกต้อง เรือสินค้าจะต้องกรองน้ำมันตัวนี้ไว้ ไม่สามารถที่จะปล่อยลงทางทะเลได้คาดว่าน่าจะเกิดจากการปล่อยน้ำทิ้งของทางเรือ
ด้าน เรือโท ธนกร จันทนา สังกัดศูนย์ความมั่นคงท่าเรือ จ.พังงา ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า คาดการว่าน่าจะเกิดจากเรือสินค้าลักลอบปล่อย หรือไม่ก็มีการดูดน้ำมันท้องเรือออก หรืออาจจะเป็นน้ำมันหล่อที่เก็บไว้แล้วเจอคลื่นลมและออกมาทางรูเองก็เป็นได้
ทั้งนี่ทางนักวิชาการประมงชำนาญการ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน (ภูเก็ต) ให้ข้อมูลเพืมเติมว่า
ในกรณีแบบนี้จะพวกน้ำมันที่รวมตัวกันแล้ว สัตว์ทะเลถ้าไม่เผลอไปกิน ตัวน้ำมันก็แขวนลอยอยู่แบบนั้น พอถึงเวลาหน้าคลื่นลมแรงๆก็จะพัดเข้ากาชายฝั่งก็จะเป็นปัญหาของเรื่องของทัศนียภาพ แต่ถ้ายังเป็นสภาพที่ยังหนืดอยู่ก็จะอาจจะติดกับเม็ดทรายบ้าง ในแง่ของสิ่งมีชีวิตเล็กๆ เช่น พวกปูลม ก็คงไม่ดีเท่าไหร่ แต่ถามว่าร้ายแรงไหม ถ้าไม่ใช่เหตุการณ์ใหญ่ๆมากๆ ถึงเวลาพอขึ้นมาก็ต้องกำจัดเหมือนขยะ แต่ถ้าเป็นก้อนน้ำมันเก่ามากๆ ก็จะไม่หนืดแบบนี้
โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า หากพบคราบน้ำมันรั่วไหล ให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที เพื่อเข้าตรวจสอบและดำเนินการขจัดคราบน้ำมันเพื่อลดผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนในพื้นที่ต่อไป
พรชัย แซ่เอี๋ยว จ.พังงา
