วัดบางน้อย จ.สมุทรสงคราม อนุรักษ์ประเพณีเก่าจัดขบวนเรือกว่า 30 ลำแห่เทียนพรรษา พร้อมจัดแข่งขันประกวดหอยทอดอร่อย สนับสนุนการท่องเที่ยว และนำรายได้ทำนุบำรุงปฏิสังขรวัด
ที่ บริเวณริมคลองบางน้อย หน้าวัดบางน้อย หรือวัดพระนอนแสนเหรียญ ต.จอมปลวก อ .บางคนที จ.สมุทรสงคราม วัดบางน้อยร่วมกับจังหวัด อบจ.สมุทรสงคราม อบต.จอมปลวก อบต.บางคนที-ยายแพง คณะกรรมการวัดและศิษยานุศิษย์ ได้ร่วมกันจัดขบวนเรือแห่เทียนพรรษาทางน้ำ ซึ่งนอกจากจะเป็นการอนุรักษ์ประเพณีที่ จ.สมุทรสงครามเคยมีในอดีตเพราะมีแม่น้ำแม่กลองไหลผ่าน 23 กิโลเมตร และยังมีคูคลองสาขากว่า 360 คลอง แต่ได้เลือนหายไปนานหลายสิบปีแล้ว จึงได้มีการฟื้นฟูประเพณีที่ดีงามนี้ให้กลับคืนมาและยังส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง มีนายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามเป็นประธานเปิดงาน ที่บริเวณริมแม่น้ำแม่กลอง หน้าวัดบางคนทีนอก ต.บางคนที อ.บางคนที ก่อนนำขบวนเรือแห่เทียนพรรษาที่มีเรือต่างๆร่วมขบวนกว่า 30 ลำ เช่น เรือโดยสาร เรือยนต์ซิ่ง เรือตกแต่งพุ่มผ้าป่า และขบวนวัฒนธรรม มีกลองยาวพื้นบ้าน ปิดท้ายด้วยเรือยนต์ชาวบ้าน ล่องไปตามลำน้ำแม่กลองเข้าคลองบางน้อย ถึงท่าน้ำวัดบางน้อย ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงเศษ มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเจ้าท่า อส.รวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมกันดูแลความปลอดภัย
หลังจากขบวนเรือถึงบริเวณท่าน้ำหน้าวัดบางน้อยพระนอนแสนเหรียญ แล้วได้ตั้งขบวนแห่เดินเท้า นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัดฯ รองผู้ว่าฯ นายก อบจ.สมุทรสงคราม และ อปท.ขบวนนางรำจาก อบต.จอมปลวก อัญเชิญเทียนพรรษาถวายให้กับพระภิกษุสงฆ์รวม 9 วัดไปยังศาลาคุณาธาร โดยพระเทพสุเมธี เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงครามฝ่ายธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดเกตการาม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระครูสมุทรคุณาธาร เจ้าอาวาสวัดบางน้อย และคณะสงฆ์ร่วมพิธี มีนายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส มีประชาชนร่วมพิธีจำนวนมากได้ยอดเงินทำบุญกว่า 2 แสนบาท สำหรับที่มาของคำว่า “พระนอนแสนเหรียญ” นั้น พระครูสมุทรคุณาธาร เจ้าอาวาสวัดบางน้อย บอกว่าเนื่องจากเมื่อปี 2559 วัดบางน้อย ได้จัดให้มีพิธีเททองหล่อองค์หลวงพ่ออยู่ จึงมีญาติโยมนำเหรียญบาท เหรียญ 50 สตางค์ และเหรียญสลึงที่เป็นทองแดงหลายยุคหลายสมัยมาบริจาคกันเป็นจำนวนมาก พระครูสมุทรคุณาธาร เจ้าอาวาสเห็นว่าที่เหรียญนั้นมีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ หากนำไปหลอมเป็นรูปหลวงพ่ออยู่น่าจะไม่สมควร จึงนำเหรียญทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นเหรียญเก่าแก่ตั้งแต่ปี พ.ศ.2493 และ พ.ศ.2500 มาติดไว้ตามสรีระของพระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอน โดยระดมพระลูกวัดติดเหรียญกันเองทั้งองค์ใช้วิธีสลับหัวก้อย และใช้ซีรีโคลนยึดติดเหรียญกับพระ ใช้เหรียญชนิดต่างๆรวมทั้งหมดมากกว่า 1 แสนเหรียญ ต่อมาชาวบ้านจึงเรียกกันติดปากว่า “วัดบางน้อยพระนอนแสนเหรียญ” หรือบางคนก็เรียกว่า “วัดพระนอนแสนเหรียญ” แต่นั้นมา
นอกจากนี้ในงานยังมีการแข่งขันประกวดหอยทอดอร่อย มีทีมต่างๆ ร่วมแข่งขัน 15 ทีม คณะกรรมการตัดสินจากการปรุงหอยทอดทุกขั้นตอน เช่นความสะอาด ถูกสุขลักษณะต้องไม่พบสิ่งแปลกปลอมที่ไม่ใช่ส่วนประกอบในการทำหอยทอด เช่น เส้นผม ก้อนกรวด หรือสิ่งปฎิกูลจากสัตว์ มีการใช้อุปกรณ์ในการปรุงหอยทอดถูกต้องและเหมาะสม การแต่งกายต้องสะอาด ถูกสุขลักษณะ หลังจากสิ้นเสร็จการปรุงหอยทอดแล้ว มีการเก็บทำความสะอาดเรียบร้อย ปฎิบัติงานได้เสร็จทันเวลาที่กำหนด ส่วนรสชาตินั้นจะตัดสินจากแป้งหอยทอดมีลักษณะเหลืองกรอบ มีความเหนียวนุ่ม หอยแมลงภู่สด มีกลิ่นหอมของเครื่องปรุง สีสันสวยงามน่ารับประทาน มีผักเครื่องเคียงครบ เช่นถั่วงอก ต้นหอมและน้ำจิ้มมีความเข้มข้น รสชาติกลมกล่อม รวม 100 คะแนน ผลปรากฏว่าที่ 1 ได้แก่ร้านสาคร บุญจันทร์ คลองหลอด ได้เงินรางวัล 5,000 บาทที่ 2 ร้านเพ็ญท่าคา ได้เงินรางวัล 4,000 บาท และที่ 3 ร้านเปิ้ล เตาฟืนริมสระ ได้เงินรางวัล 3,000 บาท ส่วนที่เหลือได้รางวัลชมเชยทีมละ 2,000 บาท