วันที่ (10 ก.ค.66 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณท่าเทียบเรือบ้านในไร่ หมู่ 7 ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ชาวประมงพื้นบ้านจอดเรือเทียบท่า หลังคลื่นลมแรง มรสุมพัดผ่านในพื้นที่ หลายรายหันมาซ่อมแซมอุปกรณ์การประมง พบว่าเครื่องมือทำการประมงมีราคาสูงขึ้น ในขณะชาวประมงพื้นบ้านยอมแบกต้นทุนไม่ขึ้นราคาสัตว์น้ำ เนื่องด้วยเกรงว่าจะเพิ่มภาระให้ผู้บริโภคภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในช่วงนี้ บางรายต้องใช้อวนดักสัตว์น้ำที่ขาดนำมาซ่อมและใช้งานต่อ
ทางกรมอุตุนิยมวิทยา ได้แจ้งเตือน พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกได้เคลื่อนผ่านประเทศไทยลงสู่งทะเลอันดามันแล้ว ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
สำหรับบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ไว้ด้วย
นายดาหน่าน หลีบำรุง อายุ 54 ปี ประมงพื้นบ้าน บ้านในไร่ หมู่ 7 ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา กล่าวว่า ได้หยุดออกเรือมานาน 1-2 วัน ที่ผ่านมา หลังจากประกาศของกรมอุตุฯเฝ้าระวังคลื่นลมแรง ฝนตกหนัก ชาวประมงพื้นบ้านจึงต้องใช้เวลาช่วงนี้ซ่อมแซมและเตรียมอุปกรณ์หาสัตว์น้ำเพื่อเตรียมไว้ในช่วงมรสุมทิ้งช่วง
ด้าน นายส้าหาด สีระยา อายุ 55 ปี ประมงพื้นบ้าน(อวนกุ้ง) กล่าวว่า ทางชาวประมงต้องนำอวนและอุปกรณ์ที่สามารถใช้ได้แม้ว่าจะมีชำรุดบ้าง แต่ต้องใช้เพราะาาคาอุปกรณ์ประมงมีราคาสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนการหาสัตว์น้ำสูงขึ้น ขณะที่ไม่สามารถเพิ่มราคาสัตว์น้ำได้ในช่วงนี้ เพราะจะเป็นภาระให้ผู้บริโภค
พรชัย แซ่เอี๋ยว จ.พังงา
