วันที่ (5 ก.พ.66 ) ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ต.วีรวิชญ์ บัวประเสริฐยิ่ง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี, พ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ รอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี, พ.ต.อ.จิตติ สามทอง ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.นพดล ธรรมเนียม รอง ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธร ชุดสนามยิงปืน และ ชุดขยายผลยาเสพติดจังหวัดสิงห์บุรี พร้อมกำลัง ได้ร่วมกัน ตรวจยึดและอายัดรถจักรยานยนต์และรถยนต์จาก นายน้ำมนต์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี อยู่บ้านในเขต ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี รวมจำนวน 119 คัน ในส่วนของรถจักรยานยนต์ได้ตรวจยึดและจับกุมได้ที่ บ้านดังกล่าว เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 09.00 น. ซึ่งผู้ที่รับดูแลได้แจ้งว่า ไม่ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถจำนวนดังกล่าวแต่อย่างใด เพียงแต่ได้รับฝากจอดรถดังกล่าวไว้ จากบุคคลซึ่งมาขอยืมเงิน โดยได้นำเอกสารสัญญาฝากรถบางส่วนมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ดู ได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดส่ง พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองสิงห์บุรี เพื่อพิสูจน์ทราบสถานะตัวรถและแผ่นป้ายทะเบียน ว่าเป็นรถซึ่งถูกโจรกรรมหรือมีไว้หรือได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
จากนั้นเวลา 13.00 น. ได้ประสานกับ สถานีตำรวจภูธรบางระจัน ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พ.ต.อ.ธีทัต สีดารักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางระจัน ให้ พ.ต.ท.สุขาติ บุญบางขันธ์ รอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางระจัน พ.ต.ท.นรินทร์ ไร่ไสว สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจภูธรบางระจัน พร้อมชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรบางระจัน เข้าดำเนินการตรวจสอบรถยนต์ในบ้านที่อยู่ในพื้นที่ ม.7 ต.พักทัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี หลังสืบสวนว่ายังพบว่ามีแหล่งจอดรถซุกซ่อนไว้อีกแห่งหนึ่ง จึงได้เข้าตรวจสอบไปยังบริเวณบ้านหลังดังกล่าว ปรากฏพบรถยนต์จำนวน 76 คัน จอดซุกซ่อนอยู่ โดยมีลักษณะเดียวกันกับที่ตรวจพบแห่งแรก โดยที่ผู้รับดูแลไม่มีเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในตัวรถแต่อย่างใดทั้งสิ้น เจ้าหน้าที่จึงได้ขออายัดรถทั้งหมดไว้เพื่อตรวจสอบโดยละเอียด เพื่อพิสูจน์ทราบสถานะตัวรถและแผ่นป้ายทะเบียน ว่าเป็นรถซึ่งถูกโจรกรรมหรือมีไว้หรือได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
อีกทั้งยังได้พบอาวุธปืนพกสั้น จำนวน 2 กระบอก เป็นปืน 9 มม. และ 11 มม. พร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง อยู่ในความครอบครองของ นายน้ำมนต์ ผู้ซึ่งรับเป็นผู้ดูแลคนดังกล่าว โดยไม่ปรากฏว่าได้รับอนุญาตให้ครอบครองอาวุธปืนตามกฎหมายแต่อย่างใด จึงได้จับกุมควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในความผิดฐาน “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากนี้จะได้มีการสืบสวนถึงที่มาของการมีรถจำนวนมากรวม 195 คัน ไว้ในครอบครอง โดยหากพบเบาะแสอันมีเหตุอันควรน่าเชื่อว่า พฤติการณ์มีความเกี่ยวข้องกับการเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ อันเข้าข่ายความผิดฐาน “เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด” ก็จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถรายใด หากสงสัยว่ารถของตนซึ่งเคยถูกโจรกรรมหรือเคยถูกบุคคลใดเอาไปโดยมิชอบ สามารถเข้าตรวจสอบได้ที่ สภ.เมืองสิงห์บุรี และ สภ.บางระจัน ได้ทุกเวลา ทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาสิทธิของพี่น้องประชาชนมิให้ตกเป็นเหยื่อของการเอารัดเอาเปรียบจากนายทุนหนี้นอกระบบอันเป็นการซ้ำเติมพี่น้องประชาชนซึ่งได้รับความเดือดร้อน จะได้ไม่ต้องตกเป็นทาสที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตราสูงให้กับกลุ่มนายทุน อย่างไม่เป็นธรรมอีกต่อไป
จินตนา ปานมี ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สิงห์บุรี