วันที่( 2 ก.พ. 65) ภาพจากกล้องหน้ารถและท้ายรถของ นายพงศกร รอดภัย ผู้สื่อข่าวพิเศษประจำจังหวัดสมุทรปราการ จับภาพได้ชัดเจนขณะขับขี่รถยนต์ส่วนตัวมาตามถนนเพชรเกษมขาเข้า ช่วงหลักกิโลเมตร ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 157 หรือแยกขวาเข้าเมืองเพชรบุรี โดยภาพจากกล้องหน้ารถจะเห็นว่านายพงศกรขับมาตามถนนในเลนกลางซึ่งเลนซ้ายมีรถบรรทุกส่วนเลนขวาว่าง จังหวะ นั้นภาพจากกล้องหลังรถของคุณพงศกร จับภาพได้ขณะที่ขับมาในเลนกลาง ปรากฏว่ารถกระบะคู่กรณีได้ขับจี้ท้ายรถของคุณพงศกร แล้วเปิดไฟสูงไล่ ทั้งที่ในเลนขวาว่างแต่ไม่ยอมแซง ระหว่างที่ถูกเปิดไฟสูงไล่คุณพงศกรก็ขับตามเลนปกตกจนเข้าเลนซ้ายเพื่อให้รถคู่กรณีขับออกขวาไป แต่คู่กรณีกลับแซงขวาแล้วเข้าซ้ายในเลนของคุณพงศกร แล้วเบรกใส่หลายครั้ง จึงออกขวาเพื่อแซงคู่กรณีเพราะไม่อยากเกิดปัญหา แต่คู่กรณีกลับไม่ยอมจบและขับจี้ท้ายอย่างกระชั้นเปิดไฟสูงกระพริบใส่หลายครั้งเพื่อให้จอด คุณพงศกรจึงตัดสินใจจอดชอบขอบทางในเลนขวาสุดเพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่กลับถูกคู่กรณีเปิดกระจกและตะโกนด่า
จากนั้นเรียกให้เข้าซ้ายเพื่อหยุดพูดคุย พอรถจอดซ้ายต่อท้ายรถคู่กรณีได้ ชายคนขับแต่งกายคล้ายทหาร ได้เดินลงมาจากรถและต่อว่าพร้อมกับหาเรื่องกับคุณพงศกร จนเจ้าตัวออกจากรถไปเจรจา กับคู่กรณี ซึ่งมีกล้องวงจรปิดที่รถจับภาพได้ทั้งหมด แต่คู่กรณีกลับไม่ยอมและพยามหาเรื่องง้างมือจะทำร้ายร่างกายคุณพงศกร จนมีการสอบถามว่าเป็นทหารสังกัดใดและฝ่ายคุณพงศกรจึงแสดงตัวว่าเป็นนักข่าวจากนั้นจึงนำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกวีดีโอเพื่อเป็นหลักฐานจังหวะนั้นนายทหารท่านนี้จึงเข้าล็อกที่ข้อมืออย่างรุนแรงจนมีนักข่าวที่นั่งรถมาด้วยกันเข้าห้ามปราบจนนายทหารท่านนี้ขึ้นรถขับออกไป หลังเกิดเหตุนายพงศกร ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกกับพนักงานสอบสวน สภ,เมืองเพชรบุรี เพื่อขอให้ติดตามนายทหารคนดังกล่าวมาดำเนินคดี
โดยหลังเกิดเหตุนายพงศกร ได้นำคลิปดังกล่าวลงเผยแพร่ในเฟสบุ๊คส่วนตัวพร้อมกับเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว โดยเจ้าตัวระบุว่าขับรถกำลังจะกลับบ้านพักที่ย่านสมุทรปราการ โดยภายในรถมีเพื่อนนักข่าวด้วยกันหลายสังกัดนั่งมาด้วยรวม 4 คน จนมาเจอคู่กรณีขับมาหาเรื่อง ยืนยันไม่ได้ขับรถปาดหรือขับรถขวางทางคู่กรณีมาก่อนแต่อย่างใด ล่าสุดมีนายทหารยศพันเอกนายหนึ่งติดต่อคุณพงศกร เพื่อขอโอกาสให้นายทหารคู่กรณี แต่ทางด้านคุณพงศกรยังไม่ได้มีการเจรจาพูดคุยแต่อย่างใด คาดเตรียมจะเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ
