พิจิตรเมืองชาละวันการแข่งขันเรือยาวเป็นประเพณีประจำท้องถิ่นแต่เกมกีฬาการแข่งขันชกมวยมันอยู่ในสายเลือดและจิตวิญญาณของลูกพระเจ้าเสือ ซึ่งในช่วงเดือน สิงหาคม-กันยายน ของทุกปี ทุกวันที่อยู่ริมแม่น้ำก็จะจัดงานแข่งเรือยาวที่มีเสียงพากย์เรือให้สนุกตื่นเต้นเร้าใจ แต่ปีนี้ อบจ.พิจิตร เพิ่มสีสันให้สนุกทั้งในน้ำและบนบก จึงได้จัดมวยไทยไปเสริมหนุนในงาน แต่ที่เป็นทีเด็ด คือการจัดมวยหมู่ให้นักชกปิดตาขึ้นเวทีคราวเดียว 4 คน ชกกันนัวเนีย เรียกเสียงฮาจากแฟนมวยข้างเวที
วันที่ (7 ส.ค.66) การสนับสนุนวัฒนธรรมประเพณีการแข่งขันเรือยาวและกีฬามวยไทย โดย พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ นายก อบจ.พิจิตร ได้เป็นประธานในพิธีมอบถ้วยรางวัลในการแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน ของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ ลำน้ำน่าน หน้าวัดดาน ต.ไผ่ขวาง อ.เมืองพิจิตร ซึ่งบรรยากาศของงานแข่งเรือ เป็นไปด้วยความสนุกสนานด้วยเสียงพากย์อันเร้าใจและตื่นตาตื่นใจกับฝีพายที่ลงจ้ำใบพาย บึ๊ดจ้ำบึ๊ด จ้ำบึ๊ด เพื่อชิงเจ้าความเร็วแห่งสายน้ำที่มีเป้าหมายแข่งชิงแชมป์ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในงานแข่งขันเรือยาวที่ลำน้ำน่านหน้าวัดท่าหลวง พระอารามหลวง ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 2-3 กันยายน 2566 นี้ ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ระดับประเทศ ที่ชาวเรือยาวใฝ่ฝันว่าครั้งหนึ่งต้องได้มาลงสนามแห่งนี้
แต่ในปีนี้ อบจ.พิจิตร สนับสนุนงานแข่งเรืออย่างเดียวไม่พอยังได้จัดการแข่งขันชกมวยไทยมาสนับสนุนงานแข่งเรือที่วัดดาน ต.ไผ่ขวาง อ.เมืองพิจิตร แห่งนี้ โดยมีทั้งนักมวยชาย-นักมวยหญิง-นักมวยต่างชาติ ที่ขึ้นฟาดปากประเคนแข้งกันบนเวที เดิมทีเดียวโปรโมเตอร์มวยประกาศให้ค่ายมวยต่างๆในจังหวัดพิจิตร และจังหวัดข้างเคียงส่งนักมวยมาประกบคู่มวยเพื่อขึ้นชกตามโปรแกรม 7 คู่ แต่ปรากฏว่าพอถึงวันชกจริง นักมวยจากค่ายต่างๆในจังหวัดพิจิตร ก็จะขอปั้นเด็กในค่ายมวยของตนเองให้ได้ขึ้นชกหาประสบการณ์ เพียงแค่ยอม ขอค่าตัวคนละ 500-1,000 บาท จึงทำให้งานนี้โปรโมเตอร์มวยต้องจัดมวยก่อนเวลา 5 คู่ และตามโปรแกรมอีก 7 คู่ รวมเป็น 12 คู่ เรื่องดูเหมือนจะจบ แต่ไม่จบ เมื่อยังมีนักมวยจากค่ายมวยพิจิตร และค่ายมวยพิษณุโลกที่เดินทางมาแล้วแต่ไม่ได้อยู่ในโปรแกรมแต่จะขอขึ้นชกขอขึ้นเวทีชกโชว์ไม่ได้ค่าตัวก็ยอม สุดท้ายคณะกรรมการจัดงานจึงให้ขึ้นเวทีพร้อมๆกัน 2 คู่ 4 คน แต่ให้ชกมวยปิดตา
ซึ่งกฏกติกามีอยู่ว่าให้ใช้หมัดอย่างเดียวห้ามตีศอกห้ามตีเข่า ห้ามเตะ โดยแบ่งออกเป็นมุมแดง 2 คน มุมน้ำเงิน 2 คน เมื่อเสียงระฆังดังขึ้นนักมวยที่ถูกปิดตาทั้ง 4 คน ก็อย่างสามขุมเข้าหาคู่ต่อสู้ที่ต่างฝ่ายต่างมองไม่เห็นกัน งานนี้กรรมการก็รับหน้าที่ทั้งผลักทั้งดันให้นักมวยเข้าชกกัน เรียกเสียงเชียร์ เรียกเสียงฮาจากแฟนมวย ที่นอกจากขำนักมวยแล้วก็ยังขำเสียงของนักพากย์มวยที่ส่งเสียงแซวนักมวยอย่างสนุกสนาน งานนี้ต้องบอกว่าว่าสนุกทั้งในน้ำและบนบกอีกด้วย
สิทธิพจน์ เกบุ้ย จ.พิจิตร