เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ (27 ก.ค.65 )ที่ สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1. พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มล้า ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยข้าราชตำรวจภายในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกันดำเนินการระดมกวาดล้างยาเสพติด แถลงข่าว ผลการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น ชุมชนไผ่เขียว ตามยุทธการ ปราบไพรีประกาศสงครามกับยาเสพติด พร้อมกับผลกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา
ผลการปิดล้อมตรวจค้นภายในชุมชนไผ่เขียว และ ในพื้นที่ สภ.วังน้อย , สภ.บางปะอิน , สภ.พระอินทร์ราชา และ สภ.ช้างใหญ่ สามารถจับกุมผู้ต้องหาครอบครองยาเสพติดเพื่อการค้า ได้จำนวน 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 22,780 เม็ด ครองครอบยาเสพติด 3 ราย ของกลางยาบ้าจำนวน 13 เม็ด จับกุมผู้เสพนาเสพติดจำนวน 11 ราย จับกุมครอบครองอาวุธปืน จำนวน 1 รายพร้อมอาวุธปืนไทยประดิษฐ์จำนวน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุนปืน จับกุม พรบ.การพนัน ได้จำนวน 3 ราย
นอกจากนี้ยังผลการระดมกวาดลล้าง ยาเสพติด และอาชญากรรม ในพื้นที่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้ง 16 อำเภอ ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม – 27 กรกฎาคม 2565 จับกุม คดีพรบ.อาวุธปืน ตรวจยึดอาวุธปืนได้ 157 กระบอก จับกุมคดีพรบ.ยาเสพติด ได้ 82 คดี ตรวจยึดยาบ้า ได้ 25,121 เม็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับ 49 คน จับคดีการพนัน จำนวน 34 คดี จับกุมคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จำนวน 17 คดี จับกุมคดี พรบ.ตรวจคนเข้าเมือง 12 คดี จับกุมคดีคดี พรบ.สถานบริการ ได้ จำนวน 1 คดี
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1.กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ทำการปราบปรามยาเสพติด ในแหล่งชุมชน ซึ่งเป็นจุดที่มีการแพร่ระบาด ของยาเสพติด โดยเฉพาะในชุมชนไผ่เขียว ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อหลายอำเภอในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ ติดต่อกับ จ.ปทุมธานี ซึ่งได้ทำการเข้าตรวจค้นเป้าหมาย และนำคนในชุมชน ทุกคน ยกเว้นคนชราและเด็ก มาทำการตรวจหาสารเสพติดซึ่งได้รับความร่วมมือจากฝ่ายปกครอง และสาธารณสุข โดยจะนำผู้เสพที่มีการตรวจหาสารเสพติด มาทำการบำบัด ส่วนผู้ค้ายาเสพติดทุกรายจะขยายผล ตรวจยึดทรัพย์สิน เพื่อตัดวงจร ผู้เสพปัจจุบันเราจะเห็นว่าเมื่อมีการเสพยาเสพยาบ้าแล้ว มีอาการคุ้มคลั่งทำร้ายข้าวของ ทำร้ายคนอื่นบาดเจ็บและเสียชีวิต ตามทีปรากฏเป็นข่าว การดำเนินการนำไปบำบัดให้เลิกยาเสพติด และหายจาอาการป่วย ต้องทำควบคู่กันไป พร้อมกับการจับกุมผู้ค้าทั้งรายย่อยและรายใหญ่
ทั้งนี้ยังเน้นย้ำเรื่องนักเรียนตีกัน ตำรวจเพิ่มความเข้ม ลงพื้นที่ทำประวัตินักเรียนนักศึกษาที่ก่อเหตุทุกคน รวมถึงประสานสถาบันสถานศึกษา เพื่อทำข้อตกลง เพิ่มความเข้มมาตรการต่างๆป้องกันการทะเลาะวิวาท รวมถึงเตือนการทำระเบิดปิงปอง สิ่งเทียมอาวุธปืน เป็นสิ่งผิดกฎหมาย ตรวจพบจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ให้หันมาช่วยกันแจ้งเบาะแสปราบปรามยาเสพติดกันดีกว่า
ณัฐพล กิจที่พึ่ง ผู้สื่อข่าวพระนครศรีอยุธยา
