จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ค ชื่อ เจ๊เอ๋ งอแง ตัวดี ได้โพสคลิปภาพวีดีโอเตือนภัย พร้อมระบุข้อความว่า ตอนแรกว่าจะไม่ลงคลิปนี้นะ เพราะว่าเราตัวเองไม่ได้อยู่บ้าน แต่ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ให้เปิดดู ในฐานะที่เป็นประธานชุมชน แค่จะแจ้งในกลุ่มชุมชนให้ระมัด ระวังกันเฉยๆ แต่ในเมื่อจิตใต้สำนึกคนในซอยไม่มี แถมปากดีด้วย ขอลงหน่อยเหอะ บางครั้งสำนึกผิดบ้างก็ได้ จะได้ไม่เดือดร้อน
วันที่ (22 พ.ค.65 ) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง หมู่บ้านจันทร์ทิพย์ หมู่ 3 ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี ได้พบกับ เจ๊เอ๋ หรือ นางสาว ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ (เจ้าของเฟซบุ๊ค) ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟัง ว่า เหตุการณ์ตนเองไม่ได้เห็นกับตา แต่ดูในกล้องวงจรปิด และในฐานะที่เราเป็นประธานชุมชน พอดูกล้องวงจรปิดแล้ว จึงได้โพสลงในกลุ่มชุมชน เพื่อเตือนภัย เพราะในกลุ่มชุมชนเรามีเด็ก มีรถวิ่งเข้า-ออกทั้งวัน เราจึงอยากเตือนคนเลี้ยงและคนขับรถให้ระมัดระวังแค่นั้นเอง แต่พอเตือนภัยแล้วมีปัญหา เพราะด้วยความที่เราโพสลง ก็มีมาแขวะ มาแซะ ซึ่งตนไม่ชอบ เราทำเพื่อสังคม เตือนภัยเพื่อสังคมนะ และก็ไม่ได้ว่าใคร เราแค่บอกให้ระมัดระวัง คำพูดและข้อความเราก็ดีๆ เราเป็นประธานชุมชน เราทำหน้าที่ของเรา และได้มีเจ้าของโครงการเข้ามาคุย ส่วนเด็กแม่เขาบอกว่ารอดูอาการ ว่าจะมีอาเจียนหรืออะไรมั้ย แต่เบื้องต้นไม่มีอะไร และถนนเส้นนี้เด็กเขานั่งเล่นกันประจำอยู่แล้ว อย่างน้อยเด็กทั้ง2ฝั่ง ฝั่งนึงมากกว่า 7-8 คน เด็กก็จะเล่นกัน รถก็ไม่ค่อยจะมี เพราะมันเป็นซอยตันแล้ว แต่รถเขาก็ถอยช้าดูจากตามคลิปเลย
ด้าน นาง จารุวรรณ สง่า อายุ 59 ปี (ผู้เห็นเหตุการณ์) เล่าว่า ตนเองนั่งเล่นอยู่กับเพื่อนบ้าน ได้มีรถปิคอัพสีขาวเลี้ยวเข้ามาทางฝั่งซ้าย เพื่อที่จะถอยหลังเข้าไปข้างในหมู่บ้าน เขาก็ถอยช้าๆ ไม่ได้ขับเร็วหรือถอยเร็ว ตนก็เห็นเด็ก 2 คน นั่งเล่นกันอยู่ เราก็ได้คุยกับเพื่อนอีกคนนึงว่า เขาเห็นเด็กมั้ยหน่ะ เราก็เรียก ส่วนเขาก็ถอยๆ เสร็จปุ๊บ เราก็ร้องเสียงหลงเลย เสร็จแล้วเขาก็คงเห็นผิดปกติท่าที่เรายืน เขาก็เลยจอดรถลงมาดู ปรากกฎว่า เด็กอยู่ใต้ท้องรถ เขาก็ไปดึงออกมา แต่จากการที่เพื่อนบ้านอีกคนหนึ่งวิ่งไปดู บอกว่า เด็กบาดเจ็บมีรอยถลอก ส่วนเรื่องสมองเรื่องล้ม เราไม่รู้เพราะไม่ได้วิ่งไปดู เพราะมันช็อก ส่วนคนขับก็ลงมาดู เพราะเขาก็ตกใจ และแฟนเขาก็ร้องไห้เสียใจ เขามากัน2คนผัวเมีย เขาก็ถอยรถออกไป คนขับก็น่าจะช็อกด้วย ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ถอยไปชนกำแพงบ้านริมสุด หลังจากนั้นตนก็ไม่ได้ไปคุยหรืออะไร ยืนดูเฉยๆ
ส่วน น.ส.นรินดา สว่างบุญรอด อายุ 34 ปี (แม่เด็กผู้เสียหาย) เล่าว่า คนขับเขาบอกว่า รับผิดชอบทุกอย่าง และเด็กต้องรอดูอาการสัก 2-3 วัน ซึ่งตนเองได้คุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ทางตำรวจได้บอกว่าให้ตนถามเขาว่า จะให้ค่าทำขวัญเท่าไหร่ เขาก็ตอบว่า แค่1,000แล้วจบ ไม่ต้องมาอะไรเลย และเขาบอกว่าถ้าจะเจรจาให้ได้มากกว่านี้ มึงก็ไปฟ้องเอาเอง ตนจึงได้ไปคุยกับตำรวจ ส่วนเงิน1,000 บาทตนก็ไม่รับ แล้วจะให้ตำรวจดำเนินการให้ ตนรู้สึกว่า ชีวิตคนทั้งชีวิต ถ้าไม่เกิดกับลูกเขาเอง เขาคงไม่รู้สึกหลอก เพราะเขาคงคิดว่าเป็นลูกคนอื่น จะยังไงก็ได้ ซึ่งเขาก็มีเลือดเนื้อมีจิตใจ แต่เขามาพูดแบบนี้ตนเองรับไม่ได้ ส่วนเด็กบาดเจ็บแค่คนเดียว อายุ 1 ขวบ 7เดือน ตอนนี้อาการที่ไปเอ็กซ์เรย์มาเมื่อคืน ไม่มีอะไรผิดปกติ ตอนนี้น้องปลอดภัยแล้ว แต่หมอบอกว่า ให้รอดูอาการสัก 2-3 วัน เผื่อข้างในมันเป็นอะไร เพราะหมอเขาก็ไม่แน่ใจ จึงให้รอดูอาการก่อน ตนไม่โอเคกับเรื่องเงิน1,000บาทเลย ขนาดตำรวจก็บอกว่าให้รองไกล่เกลี่ยดูก่อน ว่าเขาจะว่ายังไง ตนจึงได้ลองใจไปก่อนว่าพี่ให้ได้เท่าไหร่ แต่เขาบอก1,000แล้วจบ ถ้าอยากได้มากกว่านี้ก็ไปฟ้องเอาเอง ตนจึงเงียบไม่พูดอะไร พยายามสงบสติอารมณ์ให้ได้มากที่สุด และได้กลับมาดำเนินการที่บ้านต่อ และให้เจ๊เอ๋เขาช่วยด้วย เพราะตนก็ไม่มีใครตัวคนเดียวเหมือนกัน และจะดำเนินการให้ถึงที่สุด เพราะว่าลูกตนเองทั้งคน
เกียรติยง อัศวราศี ผู้สื่อข่าว จ.สระบุรี